น่าสลดใจ แม้แต่คนที่อ้างว่าหวังดี
ยังไม่กล้าแม้จะลงชื่อ หรืออีเมล์
สายที่คุณยึดถือว่าดีงามประเสริฐ
กลับเป็นสายที่คณะสงฆ์ไม่ยอมรับว่าเป็นพระ
ผมไม่เคยคิดว่าใครดีกว่าใคร
เคยศึกษาลึกซึ้งหรือไม่ว่า นรกสวรรค์ ในแนวอ.พร ท่านสอนดีแค่ไหน
เรื่องที่เอื้อนเอ่ยมา ล้วนแต่ผมรู้แล้วทั้งนั้น
นี่แค่คุณดูผมยังดูไม่ออกว่า ผมมีความรู้ทางธรรมในระดับไหน
มันเหมือนคนใส่แว่นสี อคติในใจตัวเองยังมองไม่เห็น
แล้วเที่ยวมาพล่ามสอนคนอื่น ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกัน
รู้หรือไม่ว่า พระพุทธเจ้าท่านจะสอนใคร ท่านยังต้องดูเวลา ดูบุคคล
ใครจะฟังใคร ขึ้นอยู่กับศรัทธา ปัญญา วาสนา เวลา ฯลฯ
ไม่ใช่สักแต่จะพล่ามอะไร ก็พล่ามออกไป
ผมจะเป็นยังไงก็ช่าง ผมก็ช่วยคนไว้เยอะ และก็ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
เทียบกับวัยรุ่นและคนทั่วไป คุณว่าให้มีคนอย่างผมซักครึ่ง
กับปล่อยให้มันมัวเมาแบบนี้ต่อไปอย่างไหนดีกว่ากัน
การสละมีหลายรูปแบบ มันไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
ผมพูดไม่เคยคิดว่าจะเอามาอ้างบุญคุณ
ที่บอกว่าสละมา เพื่อให้เห็นว่า ความจริงเป็นอย่างไร
ให้คนที่มันด่าผมและคนอย่างพวกคุณเข้าใจ
เพราะมันมีคนมาใส่ร้ายและกล่าวหา หาว่าผมมาแฝงผลประโยชน์
เอาธรรมะมาหากิน และอีกสารพัด
ก็เลยมาบอกว่าให้ฟัง ว่าเออ ไม่ได้แบบที่คิด นี่ต้องสละความสุขมานะ
แล้วขอโทษนะ อย่าเอาแนวสันโดษของคนอื่นมาเปรียบกับผม
ผมทำงานกับเยาวชน โดยมุ่งเน้นที่จุดวัยรุ่น
งานของผมหลายอย่าง หมอเขียวก็ทำไม่ได้ สันติอโศกก็ทำไม่ได้
งานหลายอย่างของสันติอโศกผมก็ทำไม่ได้เหมือนกัน
ธรรมะมันไม่ใช่มีทางเดียว ต่างคนก็ต่างไป ไม่ควรก้าวก่ายกัน
แต่นี่อะไร คุณยึดมั่นในทางของคุณ แล้วก็คิดว่าตนเองดีอยู่ฝ่ายเดียว
การกรวดน้ำก็เป็นกุศโลบาย คนที่เขาฉลาดพอ เขาจะรุ้ว่า
คำสอนแต่ละอย่าง มันเหมาะกับคนในปัญญาที่ต่ืางกัน
เด็กเล็กจะมาสอนเรื่องอนัตตาคงยาก พระเจ้าในรูปแบบการเปรียบเทียบบุคคล จึงต้องมีอยู่
การทำทุกอย่างเพื่อให้ทำงานต่อไปได้ แม้คนจะเข้าใจผิด
อย่างคุณที่อ้างว่ารู้ธรรมะมากมาย ก็ยังเข้าใจไม่ได้ถึงเสี้ยวในความจริง
คำที่บอกว่าหวังดี แต่ลองอ่านดูดีๆ มีแต่คำแดกดันด้วยภาษาสุภาพ
แล้วก็ยกตนข่มท่าน ว่าตนเองเก่งกว่า เหนือกว่า สายของตนเองดีกว่า
นี่เหรอ .. ไม่อยากใช้คำว่า สมเพชนะครับ แต่มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
การเข้าสู่วัยรุ่น เข้าสู่สถานบันเิทิง และเข้าสู่คนอีกกลุ่มหนึ่ง
ผมถามว่าอย่างสันติอโศกเข้าถึงได้เหรอ
ใส่ม่อฮ่อม หัวเกรียน สุดโต่งกันแบบ คนรุ่นใหม่มันรับได้ไหม
ผมทำตัวแบบนี้ั ทำงานแบบนี้ ทำให้มีโอกาสเข้าหานักเรียน และเยาวชน
ไปยืนร้องเพลง ทำตัวทันสมัย มันได้ใจวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ด้วย ให้เห็นว่า ธรรมะเป็นของไม่เชย และอีกสารพัด
คนเรามีแนวทางแตกต่างกัน ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาเบียดเบียนกัน
ถ้าคิดว่าหวังดีและรู้ธรรมะจริง
คุณก็ควรรู้ว่า บุคคลแต่ละคน ควรสอนอย่างไร มีเวลา และโอกาสเหมาะสมอย่างไร
แต่ที่มาเขียนในสมุดเยี่ยมแบบนี้ มันแสดงให้เห็นเลยว่า
คุณธรรมของคุณมันอยู่ในระดับไหน
ระดับที่เรียกแค่ว่า คำว่ามารยาทที่ดี ยังไปไม่ถึงเลย
แถมคิดเอง เออเอง เข้าใจคนอื่นผิดทั้งหมด
แค่เข้าเวปมาครั้งแรก ก็วิจารณ์และตัดสินคน และคิดว่าตนเองถูำกอยู่ฝ่ายเดียว
ไอ้สิ่งที่คุณพูดหลักธรรมมานะ
ผมว่าผมรู้ยิ่งกว่าคุณอีก แต่ผมจะพูดหรือไม่เท่านั้น
หลักปฏิจสมุปบาท ภพภูมิแต่ละอย่างเกิดมาได้อย่างไร
จิตมีพลังแค่ไหน วิบากคืออะไร จิตกับกายแยกกันขาด เป็นอย่างไร ผมก็รับรู้สภาวะนั้นมาแล้ว
ไม่ได้มานั่งงมงาย นั่งสมาธิติดสงบ แล้วมาบ้านรกสวรค์แบบ เชิง งมงาย
ถามว่า ถ้าเคยฟังผมบรรยายในแนววิทยาศาสตร์ทางจิตสักครั้ง
แล้วค่อยมาเขียนอะไรดีกว่านะ
ผมลึกกว่าที่คุณจะเข้าใจ ด้วยปัญญาของคุณระดับนี้นะ
เห็นชัดเลยว่า ที่วิจารณ์มา ไม่ได้เข้าถึงเปลือกของผมเลยด้วยซ้ำ
ที่สำคัญ ตัวเองยึดมั่นถือมั่น อคติสุดโต่ง
คิดว่าตนเองดีกว่า คิดว่าสำนักตนเองดีกว่า และอีกสารพัด
นี่หละกลียุคของจริง คนหลงก็คิดว่าตนเองถูก
คิดว่าตนเองถูกฝ่ายเดียวไม่เท่าไหร่ ถ้าต่างคนต่างอยู่
แต่นี่กลับบุกมาด่าเขาถึงบ้าน มาตำหนิเขาสารพัด ทั้งที่ไม่ศึกษาเขาให้ดีด้วยซ้ำ
งานที่ทำก็ต่างกัน แนวทางกลุ่มเป้าหมายต่างกัน
ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ผมก็คงเลิกทำไปนานแล้ว
แล้วก็ไปอยู่ป่าอยู่เขาสมถะุแบบพวกคุณนั่นแหละ
แต่ถามว่ามันได้ประโยชน์อะไรกับสังคม
และเยาวชนรุ่นใหม่ ที่นับวันห่างไกลศาสนามากขึ้นทุกที
ออกจากกะลา แล้วไปดูตามเวปใต้ดิน หรือสังคมทั่วไปบ้าง
จะได้รู้ว่า สังคมมันน่าเป็นห่วงและเน่ากว่าที่คุณคิดแค่ไหน
ไม่ใช่อยู่แต่กับสังคมเด็กดี จนมองโลกสวยไปหมด
ผมบอกว่าผมสละอะไรมา
เพราะคนมันด่าผมเยอะ ว่าเอาธรรมะมาหากิน แฝงผลประโยชน์
และถ้าผมไม่บอกแบบนี้ คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าผมรวย มีทุนเหลือเฟือ
วันๆ มีแต่คนแห่กันมาขอนู้น นั่น นี่ เห็นผมเป็นมหาเศรษฐี
แล้วหลายคนไม่อยากสนับสนุน ก็เพราะคิดว่า รวยแล้ว มีพร้อมแล้ว
ก็เลยต้องบอก เพราะไม่งั้นจะผลิตซีดีแจกเป็นแสนๆ แผ่น
แล้วทำงานต่อมาขนาดนี้ไม่ได้เลย
ก็รู้แหละว่า คงมีคนไม่เข้าใจและยังมองแง่ลบอยู่
แต่นั่นก็คือ พวกที่ชั่วจริงๆ
ก็ไม่คิดว่า คนที่อ้างว่าเก่งธรรมะ รู้ธรรม เก่งประเสริฐกว่าคนอื่น
จะเป็นไปด้วย ตัดสินคนแค่ข้อความบางอย่าง และไม่รู้จักเขาละเอียด
ก็มองคนอื่นแง่ลบ และอีกสารพัด
ผมเองไม่ชอบสายไหน อธิบายได้ด้วยว่าผิดยังไง
ผมก็ยังเฉยๆ ไม่ไปสน ไม่ไปยุ่งกับเขา เขาทำดีก็อนุโมทนาในส่วนที่เขาทำดี
แค่ตรงนี้ก็เห็นแล้วว่า จิตใจของใคร ลึกๆ แล้วมันต่างกันอย่างไร
และเข้าใจในการเผยแพร่และการปฏิบัติที่จำเป็นต้องมีความแตกต่างกันแค่ไหน
ซึ่งนี่คือธรรมะของจริง ไม่ใช่ว่าหลักของกูเท่านันที่ถูกต้อง