http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/02/2023
สถิติผู้เข้าชม14,611,715
Page Views22,702,051
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

วันนี้คุณทำความดีอะไรบ้าง

(อ่าน 7863/ ตอบ 51)

Dora

ผมตั้งกระทู้นี้มาเพื่อให้เพื่อนๆที่มีธรรมะเป็นอาภรณ์ของจิตใจ


ได้มาเล่าถึงความดีที่ทำกันในแต่ละวันว่าได้ทำอะไรกันมาบ้างในวันนี้


ถ้าในแต่ละวันเราได้ทำความดี ลองนึกเล่นๆว่าเราจะมีความสุขในจิตใจมากเท่าไร


ความดีที่ทำไม่ได้ต้องจำกัดแต่เพียงผลที่ดี แต่ต้องมีอานิสงค์ที่ดีด้วยจึงจะได้ประโยชน์สูงสุด


ดังพระพุทธโอวาทว่า ....


"การทำความดีบางประเภท มีที่ให้ผลมาก แต่อานิสงค์ไม่มาก


มีที่ให้ผลมาก และอานิสงค์ก็มาก


เพราะการทำความดีที่เป็นไปด้วยการฝึกจิต จะให้ทั้งผลมากและอานิสงค์ก็มากด้วย"


มาเล่าถึงความดีของเพื่อนๆที่มีธรรมเป็นที่พึ่งกันนะครับผม...


DORA

สวัสดีครับ


วันนี้ขณะที่ผมวิ่งกับพี่ทหารคนหนึ่ง...จากความเดิมที่ผมเคยเล่า


ว่าระหว่างทางที่วิ่งในสวน จะมีฝูงมดเดินเรียงรายเป็นแถสยาว


ขวางทางวิ่งจนเต็มเป็นสาย เป็นมดแดงเสียด้วยซิครับ ตัวใหญ่


รอบแรกผมวิ่งกระโดดข้ามและพี่ทหารนั้นเหยียบมดไปแถบ


ผมรู้สึกตกใจ และบอกว่า พี่เห็นมดเดินเป็นสายไหม


พี่เขาตอบกลับมาว่า มันเป็นทางเดินสายไหมของมด...


พี่เขาบอกว่า ตอนที่ผมกระโดดข้าม มดแหงนหน้าขึ้นมามองผมด้วย


พี่เขาคงพูดติดตลกนะครับ แต่พอรอบสอง ผมชวนพี่เขากระโดด


พอวิ่งรอบที่สองจะมาถึง ผมกระโดดพร้อมบอกพี่เขา พี่เขากระโดดแบบเพิ่งนึกได้


เบี้ยวๆนิดหน่อย แต่น่าจะข้ามพ้นไม่โดนมั้ง


สงสัยเวลาวิ่งผมต้องคอยเตือนพี่เขาละครับ...

DORA

สวัสดีครับ


เคยสดับฟังพุทธดำรัสกับพระอานนท์ที่ว่าเรื่องของการกล่าวร้ายนินทา


พระพุทธเจ้าเคยถูกพวกเจ้าลัทธิอื่นที่ไม่พอใจในพระพุทธเจ้า


เพราะมีความอิจฉาริษยาเนื่องจากจำนวนสาวกที่หันมานับถือพระพุทธเจ้ามากมาย


จึงว่ากล่าวใส่ร้ายจ้างให้คนมาว่าเสียๆหายๆ ทุกหนทุกแห่งที่พระองค์ได้ไปถึง


จนพระอานนท์ซึ่งคอยอุปฐากอยู่ ถึงแม้ตอนนั้นจะสำเร็จได้เป็นโสดาปัตติผลแล้ว


แต่ก็ยังไม่สามารถตัดขาดในเรื่องดังกล่าวได้


เนื่องจากยังมีความยินดียินร้ายต่อสิ่งที่เข้ามากระทบได้อยู่


ทักท้วงให้พระพุทธองค์เสด็จหนีไปที่อื่น


พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า แล้วหากที่อื่นมีคนมาทำเช่นเดิมนี้อีกละอานนท์


พระอานนท์ตอบกลับไปว่าก็เสด็จไปที่อื่นอีกพระเจ้าข้า !!


พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า "อย่าเลย อานนท์


อย่าให้ตถาคตทำอย่างนั้นเลย หากเราทำเช่นนั้น เราจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่


ไม่ว่าจะที่ไหนๆจะไม่ให้มีคนรักคนชังนั้นเห็นจะไม่ได้


เหตุเกิดที่ใด ควรให้ระงับลง ณ ที่นั้น"


ผมชอบพระดำรัสอีกวรรคหนึ่งว่า


"จิตใจที่ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม คือ นินทาและสรรเสริญ


เราถือว่านั้นคือจิตที่ประเสริฐยิ่ง"


นำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้เลยนะครับ....


 


 

DORA

สวัสดีครับ


เช้านี้น้าข้างบ้านผมจับหนูได้ 1 ตัว ใหญ่กว่าบ้านผมอีก


ผมกำลังจะล้างจาน ผมทราบจากแม่นำข่าวมาบอกผมในบ้านว่า


มีน้าอีกคนแนะนำให้กำจัดแบบแช่กรงดักหนูในน้ำ


หรือที่เรียกว่าจับกดน้ำ ผมได้ยินรู้สึกสงสารกลัวเขาทำแบบนั้นจริงๆ


ใจก็ไม่กล้าไปยุ่งกับวิธีการของน้าอีกใจก็อยากเข้าไปช่วย


ผมออกไปดูนอกบ้านเห็นน้าเข้าไปในบ้านเขาพอดี


ผมเลยแอบออกมาและหยิบกรงของน้ารีบถือไปนอกบ้านและ


จับกรงให้เปิดรอหนูวิ่งออกไปหางอิสรภาพข้างนอก...


แล้วจึงรีบนำกรงมาวางไว้ที่เดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ชีวิตใคร ใครก็รัก...ผมจะพยายามไม่ฆ่าและทรมานสัตว์


หากเป็นไปด้วยความพลั้งเผลอ ขออโหสิกรรมด้วยเถิด ...


DORA

สวัสดีครับ


ดีใจจังเลยครับ ในที่สุดผมก็ทราบความหมายของบทสวดวรรคนี้แล้ว


ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา...


คู่แห่งบบุรุษ 4 คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ 8 บุรุษ นั้นหมายถึง


มรรค ๔ คือ โสดาปัติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค อรหัตมรรค



ผล ๔ คือ โสดาปัตติผล สกิทาคทมิผล อนาคามิผล อรหัตผล



หรือจับคู่กันดังนี้



๑. โสดาปัตติมรรค ๑. โสดาปัตติผล



๒. สกิทาคามิมรรค ๒. สกิทาคามิผล



๓. อนาคามิมรรค ๓. อนาคามิผล



๔. อรหัตตมรรค ๔. อรหัตตผล



ขอขอบพระคุณพระอาจารย์สมรักมากๆนะครับ...สาธุ

DORA

สวัสดีครับ


แหะๆ วันนี้ไปว่ายน้ำที่สระใหญ่ไม่ได้ เพราะเขามีแข่งเปตองกัน


สนามติดกัน คนเยอะมากๆ เข้าถึงลำบาก เลยไปว่ายสระเล็กแทน


แต่กอนกลับไม่ลืมที่จะเอาอาหารไปให้ เจ้าตูบที่สระที่รอคอยอยู่


แต่ใจก็นึกว่าเย็นแล้ว จะแวะไปให้ดีไหมนะ


แต่ด้วยความคิดว่า เขาอาจจะกำลังรอเราอยู่...ทั้งตูบทั้งแมว...


เลยตัดสินใจไปดู และ ก็เป็นดังคาดไว้


ทั้งสองตัว รอ อยู่คนละทิศละมุมกัน


ผมเลยแยกเอาอาหารไปให้คนละที่ เพื่อกันการทะเลาะกัน...


เราลำบากสักนิด แต่ อาจจะทำให้คนอื่นเขาสบายขึ้น ก็ถือว่าเราทำดีแล้วละครับ


 

DORA

สวัสดีครับ...


วันนี้ขอนำพระโอวาทของพระพุทธเจ้าก่อนปรินิพพานมากล่าว...


สังขารทั้งหลายย่อมไม่เที่ยง มีความเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา

พุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเราทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด...


ผมจะระลึกและเตือนใจตัวเองเสมอนะครับ...สาธุ


เจ้าตูบที่สระว่ายน้ำ เห็นผมดีใจมากๆเลย แต่กินจุชมัดเลยครับ


คงจะหิวเพราะไม่ค่อยได้กินอะไร ต่างจากตูบที่เลี้ยงไว้ที่บ้าน


ของกินอย่างดียังเมินเลย...สัจธรรมจริงๆเลยครับ


โดนเอาใจเลี้ยงดูอย่างดี ผิดกับตูบที่ไม่มีจะกิน ต้อ


พเนจรร่อนเร่ไปวันๆ เป็นปรัชญาดีๆได้เลยครับ...


บอกกล่าวคุณโจโฉ ตอนนี้พ่อผมติดใจเสียงธรรมะที่ผมโหลดใส่มือถือ


พ่อฟังแม้กระทั่งตอนอาบน้ำเลยนะครับ ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ...สาธุ


 

DORA

วันนี้สงสารเจ้าตูบจัง


ไปว่ายน้ำ แต่ลืมเอาอาหารเม็ดไปแจก


ขอโทษด้วยนะ...


วันนี้ความดีมีไม่มากมาย แต่ช่วยเพื่อนหาข้อมูลเพื่อไปสอบได้


เขาขอบคุรเราใหญ่เลย แค่นี้ก็ชื่นใจละครับ

DORA

สวัสดีครับ


กลับมาเล่าเรื่องปาฏิบุคคลิกทาน


มี14 ชนิด ดังนี้


1. ของที่ถวายแด่พระอรหันต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า


2. ของที่ถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า


3. ของที่ถวายแด่พระอรหันต์สาวก


4. ของที่ถวายแด่ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุอรหัตตผล


5. ของที่ถวายแด่พระอนาคามี


6. ของที่ถวายแด่ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุอนาคามิผล


7. ของที่ถวายแด่พระสกมาคามี


8. ของที่ถวายแด่ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุสกทาคามิผล


9. ของที่ถวายแด่พระโสดาบัน


10.ของที่ถวายแด่ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุโสดาปัตติผล


11.ของที่ให้แก่คนภายนอกศาสนาที่ปราศจากกามราคะ


12.ของที่ให้แก่ปุถุชนผู้มีศีล


13. ของผู้ให้แก่ปุถุชนผู้ทุศีล


14. ของที่ให้แก่สัตว์เดรัจฉาน


ของที่ให้แก่สัตว์เดีจฉานยังมีผลมากมายไพศาล พุทธดำรัสกล่าวไว้ว่า


"บุคคลเทน้ำล้างภาชนะลงในดิน ด้วยตั้งใจว่า


ขอให้สัตว์ในดินได้อาศัยอาหารที่ติดน้ำล้างภาชนะได้ดื่มกินเถิด


แม้เพียงเท่านี้ ตถาคตยังกล่าวว่าผู้กระทำได้ประสบบุญแล้วเป็นอันมาก


แต่ปาฏิบุคคลิกทาน ทั้ง 14 หาได้มีผลเทียบเท่าสังฆทานได้เลย"


ฟังแล้วซาบซึ้งใจจริงๆเลยนะครับ...


การทำบุญโดยไม่หวังผลเป็นอานิสงส์มหาศาลจริงๆ


ผมเคยได้อ่านเจอว่า บุญที่ได้ มี 3 ประเภท ไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ...

DORA

มีใครทราบคำแปลบทสวดมนต์ วรรคนี้ไหมครับ


ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา...


ธรรมะรักษานะครับ


วันนี้เพลีย..แต่ทำความดีเช่นเดิมทุกๆวันเลย

DORA

วันนี้แม่ผมได้ไปที่วัดสระแก้ว...


ได้เห็นการแสดงต่างๆของเด็กกำพร้าที่ทางวัดได้อุปการะรับเลี้ยงไว้


อาหาร 3 มื้อ ในหนึ่งวัน มีมูลค่าเป็นหมื่นกว่าบาท เด็กมี่ตั้งแต่เด็กเล็กจนโต


แม่เล่าว่าน่าสงสารเด็กดังกล่าว แม่นำกระปุกออมสินมา 1 ใบ ทางวัดแจกมา


เมื่อเต็มกระปุกจะมีขบวนรถจากบ้านผมรวบรวมนำไปให้ทางวัด


นับว่าเป็นการทำบุญที่เยี่ยมมากๆวิธีหนึ่ง


ผมเคยฟังพทธดำรัสในเสียงธรรมะในที่นี้ตอนหนึ่งว่า


พระนางมหาปชาบดี โคตมี พระน้านางของพระพุทธองค์


ซึ่งทรงรับเลี้ยงอุปการะพุทธองค์มาตั้งแต่เยาว์วัย เกิดเลื่อมใสพระพุทธเจ้าหลังได้ตรัสรู้แล้ว


พระนางได้ตัดสินใจถวายจีวรแด่พระพุทธเจ้า แต่พระองค์ปฏิเสธที่จะรับไว้


ทำให้พระนางเกิดความเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะตั้งใจทำด้วยตนเองมาอย่างประณีต


พระนางจึงนำจีวรไปให้แด่พระสารีบุตร และพระสารีบุตรก็ได้ให้แด่สงฆ์อื่นต่อ แต่ไม่มีใครรับเลย


ยิ่งทำให้พระนางเสียงใจมากยิ่งขึ้นพันทวี


ในที่สุดพระพุทธเจ้าได้ประชุมสงฆ์และได้สั่งใหพระนางมอบจีวรแด่พระภิษุกที่บวชใหม่


และกล่าวตรัสว่า..


"ผ้าที่ท่านถวายนี้ มีผลานิสงส์มากกว่าการถวายแด่ภิกษุส่วนบุคคล


หรือภิกษุรูปใดรูปหนึ่งหรือแม้แต่พระพุทธเจ้าเอง


ปาฏิบุคคลิกทานใดๆ จะมีผลเท่าสังฆทานหาได้ไม่"


ปาฏิบุคคลิกทาน มีตั้ง14 ชนิดนะครับ


เช่น อันดับ1 ของที่ถวายแด่พระอรหันต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น


 ไว้ผมจะมาเล่าให้ฟังทีหลังนะครับ...


ผมถึงชอบทำบุญแบบไม่เจาะจงผู้รับ...เพราะความรู้สึกเป็นทานที่บริสุทธิ์จริงๆนะครับ


 

DORA

สวัสดีครับ


วันนี้เป็นวันหยุด ผมได้พักผ่อนไปด้วย เลยเข้ามาเลือกไฟล์เสียง


ในเวปคุณโจโฉที่น่าสนใจ ไปโหลดไว้ในเครื่องโทรศัพท์


ผมตั้งใจเลือกให้พ่อผมฟังเป็นพิเศษ พ่ออาจจะไม่ได้ฟังธรรมจากพระมานานละเท่าที่ผมเห็น


แต่พ่อจะปฏิบัติให้ผมเห็นถึงความมีจิตใจที่ดีงามอยู่เสมอ...


ผมเลือกไฟล์เสียงพระอานนท์พุทธอนุชา ให้พ่อฟังเรื่องแรก


เพราะพ่อมีหนังสือนี้ด้วยตั้งแต่สมัยของปู่ผม ผมเคยได้อ่านมารอบหนึ่งในวัยเด็ก จนจบเล่ม


เพราะอ่านแล้วรู้สึกถึงความดีขึ้นมาในตัวเองเลยละครับ


เราได้ข้อคิดต่างๆมากมายจากในหนังสือนี้ เป็นคำพูดที่สละสลวยมาก


จนผมต้องจำมาเพื่อเตือนสติให้ระลึกถึง...ผมดีใจที่ได้ไฟล์เสียงหนังสือเรื่องนี้อีกครั้ง


เพราะคงไม่ได้ไปนั่งอ่านสมัยเด็ก เพราะระหว่างออกกำลังกาย นั่งในรถ หรือ ว่างๆ และตอนนอน


ผมสามารถฟังได้ตลอดเวลาที่ผมกล่าว และผมก็เห็นถึงความสำคัญข้อนี้


เพราะพ่อผมก็ว่างกว่าผมเยอะมากๆ ผมเกรงว่าท่านจะไม่อยากฟัง


กลัวไปต่างๆนานาๆ แต่ด้วยพื้นฐานจิตใจที่ดีงามอยู่แล้ว


ผมเลือกเรื่องที่ท่านคุ้นเคยและลืมไปนานแล้ว(ผมมั่นใจเพราะผมไม่เคยเห็นพ่อหยิบขึ้นมาอ่าน


นานนับเป็นหลายๆสิบปี พ่อชอบมากๆเลยหลังจากที่ฟัง เพราะจะเพลินมากๆ เหมือนที่ผมชอบ


ผมดีใจที่พ่อผมได้ธรรมะและข้อคิดในหนังสือเล่มนี้ พ่อมักจะเอามาเล่าให้ฟังหลังฟังจบแต่ละตอน


ว่าความปราณีของพระพุทธเจ้ามีมากมายเพียงไรต่อสรรพสัตว์โลกอย่างพวกเรา


ตอนนี้พ่อผมฟังพระอานนท์จบแล้ว ผมได้พยายามเลือกเรื่องที่เหมาะกับพ่อ ก็จากในเวปของคุณโจโฉ


นั่นเองครับ ใจผมไม่ได้หวังอะไรมากกว่าการที่พ่อได้ข้อคิดจากธรรมและน้อมนำมาเข้าสู่ตัวเอง


ปฏิบัติตามให้สมกับวัยที่มีแต่จะร่วงโรยลงไปทุกทีๆ สิ่งที่ผมจะตอบแทนท่านได้ดีมากไปกว่าการเป็นลูกกตัญญู


ก็คือการให้ธรรมะประดับจิตใจของพ่อผม พ่อเปลี่ยนไปบ้างและเห็นถึงเรื่องบาปบุญมากขึ้น


สังเกตจากการไปปล่อยหนูนั่นเอง... ผมรักพ่อมากๆเลย...

DORA

ด้วยความตกใจมากๆเลยครับ


ทำไมหนูเยอะจริงๆเลย บ้านผมจับลูกหนูได้ 4 ตัวละ


และบ้านน้าจับได้ตัวใหญ่ 1 ตัว อยู่ใกล้ๆบ้านผมเลย


กรงของผมเอาไปปล่อยแต่เช้าละครับ แต่


เมื่อผมเห็นกรงของน้า วางไว้ตรงกลางแดด ผมสงสารคิดว่า


หนูคงจะร้อนแน่ๆเลย แต่ผมต้องออกไปข้างนอกแล้ว


จึงโทรบอกพ่อให้ช่วยนำไปปล่อยที เพราะมันอยู่กลางแดดนานๆไม่ได้


พอปล่อยเท่านั้นพ่อเล่าว่ามันวิ่งเข้าไปหาแหล่งน้ำทันที ตามสัญชาตญาณของสัตว์


สงสัยคงจะขาดน้ำมาตั้งนานละ...พ่อได้ยินน้าเล่าว่า เสียดายไม่มีอ่างน้ำเหมือนเมื่อก่อน


ไม่งั้นจับกดน้ำละ ผมและพ่อได้ยินแล้วหดหู น้าเป็นคนที่มีโรคประจำตัวเยอะมาก


ผมไม่อยากให้เขาทำแบบนี้เลย เบียดเบียนชีวิตสัตว์ก็เท่ากับบั่นทอนชีวิตเรา

DORA

วันนี้ก็ทำความดีดั่งเช่นทุกวันคือนำอาหารเม็ดไปเลี้ยงตูบและเหมียว
ก่อนที่จะลงไปว่ายน้ำ
ระหว่างตีขาเกาะโฟม
ก็พยายามท่องบทสวดกับคำแปลให้คล้องกัน
ผมอยากจำได้ไวๆ
เวลาว่างจะพยายามหยิบมาท่องจำครับ
ราตรีสวัสดิ์ครับ

DORA

วันนี้ได้ฟังเสียงธรรมของอ.วศิน สำนวนการแต่งช่างไพเราะเพราะพริ้งจริงๆครับ


สุภัททะภิษุก เป็นปัจฉิมอรหันต์ของพระพุทะเจ้า(พระอรหันต์รุปสุดท้าย)


เป็นปริพาชก(นักบวชนอกศาสนา) ที่แหวกหมู่ภิษุกที่กำลังเฝ้าพระพุทธเจ้าจวนปรินิพพาน


จนพระอานนท์ต้องกล่าวห้าม แต่ด้วยความกรุณาที่ไม่สิ้นของพระพุทธองค์


ได้กล่าวให้เชิญเข้ามาได้ และได้ถามคำถาม ที่ไม่มีแก่นสารแด่พระองค์


แต่ด้วยพระองค์ทรงเล็งเห็นว่าเป็นบุคคลที่สอนได้ จึงได้ให้โอวาทแด่สุภัททะ


จนเกิดความเลื่อมใสและขอบวชในพระพุทธศาสนา


ระหว่างที่เดินจงกลมกลับไปกลับมาพร้อมพิจารณาข้อธรรมนำมาทำลายกิเลศให้หลุดร่วง


แสงแห่งราตรีจวนสิ้นสุดอยู่แล้ว แสงแห่งดวงจันทร์ที่ส่องลงมา


กระทบกับผิวกายทำให้เกิดรัศมีที่งดงามอย่างยิ่ง 


สุภัททะตั้งใจแน่วแน่ว่าจะบำเพ็ญเพียรคืนนี้ตลอดราตรี


เพื่อบูชาพระพุทธเจ้าที่จวนใกล้จะปรินิพพานในปลายปัจฉิมยาม


แม้จะเหน็ดเหนื่อยอย่างไรก็ไม่ย่อท้อ ขณะนั้นแสงแห่งจันทร์ที่สว่างสดใสกลับมืดมิดได้


สุภัททะภิษุกได้แหงนมองดวงจันทร์เห็นเมฆก้อนดำมหึมาเข้ามาบดบังดวงจันทร์


และสักพักก็สลายไป ทำให้เกิดแสงแห่งความสดใสสว่างเจิดจ้าขึ้นมาอีกครั้ง


แสงโสมสาดส่องลงมาสว่างดั่งเดิม ทันใดนั้นดวงปัญญาก็สว่างขึ้นมาในดวงใจของสุภัททะภิษุก


เพราะนำดวงใจไปเทียบด้วยดวงจันทร์ จิตนี้เป็นธรรมชาติที่ผ่องใส มีรัศมีเหมือนจันทร์เจ้า


แต่อาศัยกิเลสที่จรมาเป็นครั้งคราว จิตนี้จึงเศร้าหมอง เหมือนก้อนเมฆบดบังดวงจันทร์ให้อับแสง


แต่แล้ววิปัสนาปัญญาก็โพรงขึ้นชำแหละกิเลสแทงทะลุขึ้นบาปกรรมทั้งหมดที่หุ้มดวงจิต


แหวกอวิชชาและโมหะ บรรลุอรหันต์ในที่สุด


 


ผมฟังแล้วรู้สึกเกิดปิติในธรรมจังเลยครับ...

DORA

เมื่อคืนที่ผมจับหนูได้แล้วเอาไปปล่อย มันเป็นเพียงลูกหนูตัวเล็กๆ


สัตว์หรือแม้แต่คนต้องการที่จะดิ้นรนเพื่อหาอาหารยังชีพ


แต่เพียงเพราะหนูเป็นสัตว์นำโรคได้ จึงไม่คิดที่จะเลี้ยงไว้


แต่ผมและครอบครัวก็ไม่คิดจะต้องฆ่าด้วยเช่นกัน


จึงต้องเป็นกรงนี่แหละที่ละมุนละม่อมที่สุด


แต่ถ้าได้เป็นลูกหนู สัญชาตญาณของสัตว์ทุกชนิดหรือแม้แต่คน


ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดและปลดออกจากทุกข์


ลูกหนูพยายามเอาหัวออกมาจากช่องรูของกรง จนหัวมันต้องติด


จะเอาออกก็ไม่ได้จะเอาเข้ากลับไปเหมือนเดิมก็ไม่ได้


ตอนผมเอาไปปล่อยผมเห็นสภาพแล้วนึกถึงสัจธรรมที่ว่ากายเป็นทุกข์เลยละครับ


ด้วยประสบการณ์ที่เคยทำ ผมใส่ถุงมือยางหนา


และเอื้อมมือไปจับลำตัวที่มีเฉพาะหัวโผล่ออกมาจากรูหาความอิสระภายนอกได้


ช่วงแรกหนูร้องดังและดิ้นรนไปมาอาจจะด้วยความตกใจและกลัวความเจ็บปวดตามสัญชาตญาณ


แต่ด้วยใจที่ผมอยากช่วย มีเพียงวิธีเดียวที่จะทำได้คือดึงหัวกลับเข้ามาใหม่ในกรง


ผมพยายามหลายๆครั้ง หนูก็ร้องไปมาจนอดสงสารไม่ได้


แต่ต่างจากตอนแรกๆที่ทำ เพราะแทนที่จะดิ้นไปมาทำให้ผมจับยาก


กลับทำตัวนิ่งๆและเหมือนะช่วยกันให้ภาระกิจสำเร็จได้


(หรืออาจจะเพราะหมดแรงและกำลังมึนที่หัวโดนบีบ )


จนในที่สุดผมดึงกลับออกมาได้สำเร็จ หนูยังคงงงและตกใจ


ทั้งๆที่กรงก็เปิดออกให้วิ่งออกไปได้ แต่กลับวิ่งวนในกรง จนผมต้องชี้ทาง


(หรืออาจจยังห่วงหัวปลาทู แต่น่าจะไม่มั้ง )


หนูค่อยๆวิ่งออกมาจากกรง กายมันเป็นอิสระแล้วละ...


หลังจากนั้นผมก็เดินถือกรงเปล่ากลับมาเพื่อใส่เหยื่อล่อใหม่


เพราะว่าพ่อก็เห็นอีกตัวอยู่ในบ้าน เฮ้อ...ทำไมเยอะจัง


เลยดักต่อ...ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้


เผอิญเมื่อเย็นแม่เข้าห้องน้ำแล้วแอบเห็น แม่บอกจะใช้ไม้ตีให้ตายเลยเพราะอยู่ในบ้าน


ผมกลัวแม่จะฆ่าหนู เลยเอ่ยปากเตือนไปว่า อย่าไปตีมัน ลองจับมันให้ได้ก่อน


ผมกลัวแม่เจอและตีมันที่สุดเลย


.....................................................................................................


เมื่อกี้เองเราในครอบครัวจับตัวนั้นได้ คราวนี้เล็กกว่าตัวเมื่อคืนอีก


มันจึงไม่ติดกรงเพราะถึงติดก็รอดออกมาได้


มันแอบในกล่องยาสีฟัน แม่เลยเอาถุงพลาสติกคลุมทั้งกล่อง


เป็นหน้าที่ของผมที่เอาถุงที่มีลูกหนูนั้นไปปล่อย...ผมดีใจที่มันปลอดภัย


และผมก็เข้าใจว่า ที่จริงแม่ก็คงไม่อยากทำร้ายมันหรอก...


สาธุ....

DORA

สวัสดีครับ


คิดว่าวันนี้จะไม่มีความดีซะแล้ว พอดีเดินเข้าไปในครัว ได้ยินเสียงร้องจี๊ดๆ


คิดว่าต้องเป็นมิกกี๊เมาส์แน่ๆเลย เลยตั้งกรงดักล่อไว้ ด้วยหัวปลาทู


แป็ปเดียวมันก็มาติดกับ กะว่าพรุ่งนี้เช้าจะรีบนำไปปล่อย


ความดีของผมวันนี้ คือจับหนูได้ 1 ตัว ครับ


ขอให้ไปดีนะเจ้าหนูน้อย

DORA

สวัสดีครับคุณโจโฉ


การสวดมนต์ที่เป็นภาษาบาลี บางคนสวดทั้งๆที่ไม่ทราบความหมาย


แต่จิตของเขาเกิดปิติคือความอิ่มในธรรม


เขาเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาเปล่งวาจาออกไป เป็นไปเพื่อสรรเสริญพระรัตนตรัย


เขาเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ทั้งๆที่บทสวดที่เขาภาวนาอยู่อาจจะแปลไม่ออก


ปิติที่เกิดขึ้นในขณะนั้นจะน้อมจิตเขาให้เกิดความระงับและเป็นสมาธิในที่สุดได้


ผมจึงมีความเชื่อว่า หากสวดมนต์ภาวนาจะรู้ความหมายของบทสวดหรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับ


การโน้มจิตให้เกิดปิติจนถึงขึ้นระดับเป็นสมาธิได้ถือว่าบรรลุเป้าหมายของการภาวนาแล้ว


การสวดมนต์ไม่ว่าจะแปลออกหรือไม่ออก เปรียบได้ดั่ง แมวจะสีดำหรือขาว


แต่หากจิตเป็นสมาธิได้เมื่อไร ถือว่าเราได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการภาวนา เปรียบได้ดั่งการที่สามารถจับหนูได้ นี่เองครับ


ทางที่จะไปสู่สมาธิมีได้หลายทาง ไม่ว่าจะสวดมนต์ภาวนา เดินจงกรม ฟังธรรมะ...


เราจะเลือกเดินทางไหนก็ได้ เพื่อจะนำจิตเข้าสู่สมาธิ ก็ถึงซึ่งแก่นเหมือนกัน


อานิสงส์ เป็นกุศลกรรม เมื่อจิตเป็นสมาธิ เรากำลังเข้าใกล้ถึงพระพุทธองค์


ในความเห็นของผม การสวดมนต์แม้จะแปลออกหรือไม่ จึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ


แต่อยู่ที่ว่าเราจะเปล่งวาจาออกไปอย่างไรแล้วทำให้จิตเราเข้าสู่สมาธิได้ นั่นแหละครับ คืออานิสงส์


วิธีของคุณโจโฉ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน วิธีของผม จะสวดแต่ภาษาบาลีแต่จะโน้มจิต


ให้แปลภาษาไทยโดยรวมไปในตัวระหว่างที่เปล่งบาลีออกไปในประโยคนั้น


ตอนผมฟังพระสวดบางที พระท่านจะมีท่องบาลีนำก่อน และตามด้วยภาษาไทยแปลต่อประโยคบาลีก็มี


ดังนั้นวิธีจึงมีหลากหลาย ดังเช่นทีผมเคยฟังเจอในเสียงอ่านหนังสือในเวปคุณโจโฉว่า


การสำเร็จมรรคผลของพระภิกษุในพุทธกาล บางรูปสำเร็จได้ขณะจิตโน้มลงสู่ธรรมจากพระโอษฐ์


บางรูปสำเร็จได้ขณะเดินจงกลม นั่งวิปัสสนา ภาวนา


บางรูปสำเร็จได้จากการได้ปลงสังเวท หรือบางรูปสำเร็จได้ขณะโน้มตัวลงนอน


วิธีการต่างๆหลากหลาย แต่ปลายทางธรรมทั้งหมดคือความสำเร็จอริยมรรค นั่นเองครับ


ผมมีพุทธพจน์ที่ผมเคยฟังจากเสียงอ่านหนังสือในเวปคุณโจโฉนี้เองครับ


ประโยคที่กินใจผม ผมจะพยายามฟังหลายๆรอบ และจดจำ เพราะบรรยายธรรมได้สวยงดงามเหลือเกิน


เหตุการณ์โดยย่อกล่าวว่า นางจิญจมาณวิกาเป็นสตรีบาป


ผู้ซึ่งเป็นฝ่ายของเจ้าลัทธิที่มีอคติกับพุทธศาสนาในสมัยนั้น


ได้จ้วงจาบด่าทอใส่ร้ายกล่าวหาว่าตนเองมีครรภ์กับพระพุทธเจ้าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย


จนพระอานนท์พุทธอนุชารู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนอย่างมาก จนพระพุทธเจ้าได้ตรัสปลอบไปว่า


"ผู้ที่จับคูถ(อุจาระ)ปามณฑลพระจันทร์ย่อมประสบด้วยเหตุเดือดร้อนเองสองประการคือ


มือของเขาย่อมสกปรกเปรอะเปื้อน ติดกลิ่นเหม็น ประการหนึ่ง


และอีกประการหนึ่งคือจิตของเขาย่อมเศร้าหมองเมื่อคูถที่เขาปาไปนั้น...


ไม่สามารถทำให้มณฑลของพระจันทร์แปดเปื้อนมัวหมองลงไปได้


แต่กลับตกลงมาเปรอะเปื้อนสู่ศีรษะและอวัยวะต่างๆของผู้ปาเสียเอง


คนที่เกิดมาแล้วมีขวานติดปากมาด้วยสำหรับจะไว้พูดจาเชือดเฉือนฟาดฟัน


ติเตียนคนที่ควรสรรเสริญหรือสรรเสริญคนที่ควรติเตียน


ผู้นั่นเชื่อว่าแส่หาโทษใส่ตัวเพราะปาก เขาย่อมหาความสุขไม่ได้เพราะโทษนั้น"


พุทธพจน์นี้คงให้แง่คิดแก่คนได้หลายๆคนนะครับ


คุณโจโฉร่วมอนุโมทนากับความดีรายวันของผม ผมสาธุ...ด้วยนะครับ


 

เว็บมาสเตอร์

เหมือนคุณจะไม่เข้าใจว่า


สิ่งที่ผมเขียนสื่ออะไร


 


การสวดแบบไม่เข้าใจ แม้จะเป็นบทสรรเสริญ


ก็ไม่มีทางได้อนิสงส์ เทียบเท่ากับการสวดแบบเข้าใจแล้วแปลออก


นี่คือจุดที่ต้องการสื่อ


มันคนละเรื่องกับ แมวจับหนูได้ หรือวิธีการปฏิบัติต่างกันครับ


แยกแยะให้ออกว่า วิธีการทีต่างกันแต่ไปสิ้นสุดที่ปลายทางเหมือนกัน


กับวิธีการที่ให้อนิสงส์สูงสุด ต่างกันอย่างไร


 


มะกี้ ไปอ่านในหน้าขอซีดี


มีคนมาเขียนชมว่า


เรื่องมาก ไอ้ xx  ...  อ่านแล้ว ปลงแทน


ว่าคนที่เข้ามาเวปผมล้วนสนใจธรรมะ


แต่นึกไม่ถึงว่า บัวเต่าถุยจะหลงเข้ามาด่าผมถึงเวปผมเอง  555


ที่ผ่านมาก็มีประปราย มีกระทั่งมาเขียนสมุดเยี่ยมว่า


เสียงหนังสือที่ทำไม่เห็นจะเวร์ค ไม่อยากฟัง ไม่แปลกที่คนอื่นจะคิดเหมือนกันแล้วชอบขอซีดีอันอื่น


แล้วก็สารพัด


 


คนเราก็หากรรมใส่ตัวกันจิ้งๆๆ 


เค้าไม่รู้หรอกว่า คนทำกับผม แป๊บเดียว เด๋วเห็นผลว่าสะท้อนกลับแค่ไหน  หุๆ


 


เลยมาบ่นให้ฟัง


จริงๆ แล้วแต่ละวัน ผมทำอะไรเยอะแยะ งานใหญ่ๆ


แต่ก็ไม่อยากจะเล่าให้ใครฟังแระ  มาบ่นเรื่องไม่ดีที่เจอมา มันก็เหมือนได้ระบายดีกว่า 555


ยิ่งขึ้นสุง ยิ่งต้องหนาวมากขึ้น 


วันก่อนก็โดนพนักงานทรู พูดจาเหยียดหยามด้วยคำถามประมาณ


เหมือนเรากระจอก เวปกระจอก  หึๆ   ถามมาด้วยคำถามว่า


เวปคุณมีคนเข้าถึง 2 ร้อยหรือเปล่า  แล้วก็เอาคำค้นหาชื่อเวปเขามาเทียบกับเรา


ซึ่งมันคนละเรื่องกันเลย คำว่าโจโฉ กับคำว่า อาหารปลา


ฟังแล้วงง กับตรรกะ และเหตุผลของคนบางจำพวก


ถ้าไม่ได้การดูจิตจากหลวงพ่อ คงอกแตกตายไปหละ


มันก็แค้นนะ ปกติยอมไม่ได้ ถ้าใครจะมาพูดไม่จริง เกี่ยวกับเรา


แต่ก็บัวมีสี่เหล่า จะไปเสียเวลาอธิบายก็เท่านั้น


เหมือนที่ทำอะไรมาตั้งนานนี่แหละ  แต่ก็โดนคนมองแง่ลบได้ตลอดเหมือนกัน


 


ถ้าเป็นสมัยก่อน ตามเช็คไอพี จนเจอแหละ คนที่มาโพสต์ด่าผม


แต่ตอนนี้ ไม่รุ้จะเสียเวลาทำไมเหมือนกัน


นอนหละ 


 


อนุโมทนาด้วยนะครับ สำหรับความดีที่คุณทำ


 

DORA

คุณโจโฉ


มีความคิดเป็นขอตัวเอง...ถือเป็นเรื่องที่ดี


เป็นการพัฒนาแนวคิดที่แตกต่างออกไป


ผมคิดว่าการสวดมนต์ภาวนา เป็นสิ่งที่ดี


แม้ว่าเราอาจจะเปล่งคำพูดที่แตกต่างออกไป


แต่ความหมายโดยรวมแล้วคือการสรรเสริญพระพุทธ,พระธรรมและพระสงฆ์


รวมถึงหลักธรรมต่างๆ ภาพรวมแล้วถือว่าเราตั้งใจ


และมีสมาธิแน่วแน่ในคำสวดนั้น จิตของเรารวมเป็นหนึ่งเดียว


และเป็นสมาธิก็น่าจะถือว่าเข้าถึงพระพุทธเจ้าแล้ว


พูดง่ายๆว่า ทางที่จะไปมีได้หลายทาง แต่ถึงจุดหมายเดียวกัน


ไม่ว่าจะเป็นแมวขาวหรือแมวดำ หากจับหนูได้ สีก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว


ก็ถือว่าสำเร็จครับ


คุณโจโฉบอกว่า ตอนนี้ งานเยอะมากมาย ไม่รู้จะแบกโลกไว้ทำไมคนเดียว


วันๆ มีแต่เรื่องให้ทำเพื่อคนอื่น แถมสุขภาพไม่ค่อยดีอีก


ขอแนะนำให้เดินทางสายกลาง ตรงไหนตึงก็ปรับให้หย่อนลงบ้าง


"ตัวเราคนเดียวไม่สามารถทำให้คนอื่นมีความสุขได้ทั้งหมด


หากเราเลือกที่จะทำให้คนอื่นมีความสุข นั้นพอเป็นไปได้"


การอุทิศตนเพื่อส่วนรวม ถือเป็นการเสียสละ คุณโจโฉ ทำได้ดีแล้ว ดีมากๆด้วย


เพียงแต่หากเราต้องเหนื่อยกายแต่ไม่เหนื่อยใจ ใจที่บริสุทธิ์จะช่วย


ทำให้กายเรามีกำลังได้ ผมเชื่อเช่นนั้น


แต่ ต้องไม่โหมหนักจนใจก็ท้อ กายต้องไปก่อนใจแน่นอน...ถึงตอนนี้ต้องแย่แน่ๆ


เป็นกำลังใจให้ครับ...


ความดีวันนี้ของผมคือ ข้าวที่เหลือจากเจ้าตูบทานไม่หมด..


ผมได้วางไว้บนหลังคาบ้านเพื่อให้นกได้บินมาทานต่อ...ผมได้ลองทำมาได้ 1 อาทิตย์


รู้สึกตอบสนองต่อตลาดนกดีมากๆเลย หายเกลี้ยงเลย...


ผมเคยฟังเสียงธรรมจากเวปคุณโจโฉ


เศษอาหารที่เราเหลือเพื่อจะทิ้งลงดิน


แต่หากเรามีใจที่นึกถึงว่าสัตว์ที่อยู่บนพื้นดิน


จะได้ถือเป็นอาหารต่อไป ทานนี้ก็เกิดแก่ผู้ให้แล้ว


ผมมีความสุขอีกแล้วนะ วันนี้


 


 


 


 


 


 

เว็บมาสเตอร์

เห็นด้วยกับการแปลครับ สวดบาลีอย่างเดียว ไม่ค่อยได้อาไรหรอก


แต่ก็ดีกว่าไม่สวด เพราะเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ กล่าวถึงของสูง และธรรมะอันบริสุทธิ์


ผมปกติ คิดบทสวดมนต์เองครับ  แต่งเองเลย


สวดเป็นภาษาไทยล้วน แล้วรู้สึกได้ถึงอนิสงส์ ว่ามันถึงใจกว่า


มีเวลาว่างจริงๆ ถึงจะสวดบาลีด้วย


 


ยกตัวอย่างนะ ถ้าสวดพุทธคุณ แบบบาลี ผมสวดได้แค่สมาธิ


แต่ถ้าแปล แล้วมาเรียบเรียงให้เป็นภาษาส่วนตัว ทันสมัย


สวดเสร็จ เกิดปีติ แล้วเข้าถึงแบบลึกซึ้งกว่านะครับ


เช่น


นึกถึงพระพุทธเจ้า แล้วพูดว่า


พระพุทธเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ หมดจดจากกิเลส หมดความหลงผิดยึดติดทั้งปวง


เป็นผู้พ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง ท่านสง่างามและน่าเคารพกราบไหว้อย่างยิ่ง


เป็นครูผู้สอนและประเสริฐกว่ามนุษย์และเทวดาทั้งหลาย


ทรงยอมสละความสุข และต้องยอมลำบาก เกิดตายไม่รู้กี่แสนชาติ


เพียงเพื่อจะเข้าถึงการเป็นพระพุทธเจ้าแล้วมาสั่งสอนพวกเรา ทั้งที่พระองค์สามารถนิพพานได้ตั้งนานแล้ว


แล้วก็นึกไปเรื่อยๆ อะคับ   นึกถึงความเป็นจริง


นึกถึงพระธรรม พระสงฆ์ แล้วก็นึกถึงพระสงฆ์ที่เราเคารพในปัจจุบันด้วย


พอครบทั้งสามอย่าง มันได้อะไรเยอะกว่าสวดบาลีอย่างเดียวมากๆเลย


รวมถึง พอเรานึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัยแล้ว


ก็นึกกราบขอขมา ขออโหสิกรรม ที่เราอาจพลาดพลั้งล่วงเกินไป


สัญญาว่าจะไม่ทำอีก และสำนึกในบาปที่เคยทำ


ตั้งใจจะรักษาศีลให้ครบ  แล้วก็นึกน้อมกุศลที่เคยทำอุทิศให้ในสิ่งที่เราควรจะอุทิศ


ทั้งหมดนี้ ภาษาไทยล้วนๆ ครับ


 


กำลังว่า จะแต่งเป็นประโยคสวยๆ  ไว้สอนเด็กๆ เหมือนกัน


เพราะเห็นกับตัวเองว่า สวดแบบนี้ มันได้ใจ ได้เข้าถึงธรรมมากกว่า ได้ประโยชน์มากกว่า


เหมาะกับคนเมือง คนสมัยใหม่ และมีเวลาน้อย


 


แต่ตอนนี้ งานเยอะมากมาย ไม่รู้จะแบกโลกไว้ทำไมคนเดียว


วันๆ มีแต่เรื่องให้ทำเพื่อคนอื่น แถมสุขภาพดันไม่ค่อยดีอีก เฮ่อ 

Lock Reply
 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view