http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/02/2023
สถิติผู้เข้าชม14,589,541
Page Views22,674,976
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

"อยากดัง" ต้องทำบุญให้ถูกวิธี



"อยากดัง" ต้องทำบุญให้ถูกวิธี โดย โจโฉ

              สงสัยไหมบางคนหน้าตา-ความสามารถต่ำกลับโด่งดัง งานและแฟนคลับเยอะ  แต่บางคนทั้งเก่ง-หน้าตาดี กลับแป๊กอย่างไม่น่าเชื่อ!!   "บุญ" เป็นสิ่งที่ขโมยกันไม่ได้  อาจมีทุกอย่างประเคนถึงที่ไม่ต้องตามล่าคว้าเดือนให้ปวดลิ้นปี่  ไม่ต้องเสียเวลากับละครฉากใหญ่ ที่มีไว้ปั้นเด็กของตนหรือแค่หาเงินจาก SMS   วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่า.. "ความคิด ความรู้สึกเป็นคลื่นพลังงาน แผ่ออกมามีผลต่อวัตถุและจิตใจคนรอบข้างได้" วัดผลเชิงลึกจาก โมเลกุลน้ำ คลื่นสมอง อวัยวะในร่างกาย  และสัมผัสจากชีวิตจริงได้ เช่น อยู่ใกล้คนดีจิตใจผ่องใส จะรู้สึกเย็นสบายใจ  ถ้าอยู่ใกล้คนเครียดทุกข์ใจ อากาศรอบๆ จะหม่นหมอง รู้สึกอึดอัดแปลกๆ  หากอยู่ร่วมขณะคู่รักขอแต่งงาน จะมีพลังสุขกระจายแผ่รอบ ให้เราสุขใจตามจนน้ำตาแตกได้  ในโรงหนังกระแสจิตคนจำนวนมากจะทำให้รู้สึกเศร้าหรือตลกไปด้วย ทั้งที่ไม่เศร้าไม่ตลกเท่าไหร่เลย

 

              ทำดีจิตผ่องใสเป็นประจำ  จะเกิดพลังเย็นแผ่รอบตัว   ใครได้เจอหรือใกล้ชิด  จะถูกชะตาเป็นพิเศษ อยากพูดดีด้วย อยากช่วยเหลือสนับสนุนให้โอกาส ให้อภัยได้ง่ายกว่าคนที่มีพลังลบ ที่แค่เจอครั้งแรกอาจหมั่นไส้อย่างแรง (ตัวอย่างพลังลบรุนแรง เช่น คนฆ่าข่มขืนเด็ก ใครเห็นก็อยากกระทืบ)   จิตแผ่พลังตามนิสัยและสะสมข้ามชาติได้ เมื่อตายแล้วเกิดใหม่ หากเคยทำดีไว้มาก จิตจะคุ้นชินปล่อยคลื่นพลังงานดีแบบเดิมออกมา    ทำให้เป็นที่รักและได้รับโอกาสดีกว่าผู้อื่น     แม้ชาตินี้ยังไม่ได้ทำดีก็ตาม

 


              พลังจากจิตเหมือนเงินในธนาคาร ฝากไว้มากก็หมดยาก บางคนทำชั่วทั้งชีวิตก็ยังใช้บุญเก่าไม่หมด  ทำให้หลงผิดว่าทำชั่วแล้วได้ดี   ดาราทั้งไทยและต่างประเทศเสียชีวิต-เกิดอุบัติเหตุ ขณะโด่งดังหรือดังได้ไม่นาน  อาจเพราะสะสมพลังด้านดีมาน้อย เหมือนมีเงินฝากไม่มาก แต่เบิกมาใช้ทีเดียวหมด (โด่งดังมีชื่อเสียง ก็คือกำลังเบิกบุญเก่ามาใช้ให้หมดไปเรื่อยๆ) ถึงเวลาเจ้าหนี้มาทวงเงินที่เคยยืมไป (เวรกรรมให้ผล)    ไม่มีจ่ายเขาก็ทำร้ายเอา   แต่หากหาเงินเก็บเพิ่ม(ทำดีเพิ่ม)  ก็อาจรอดการทวงหนี้ด้วยชีวิต และอยู่เป็นดาวโด่งดังเสพสุขได้อีกนาน  

.

         "ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย" คนประสบความสำเร็จจะหาตัวตนเจอไวกว่าคนอื่น จึงทุ่มเทแบบถูกทาง  เป็นม้าก็ฝึกวิ่งไม่เสียเวลาบินแข่งกับนก  คนขยันอีกมากเดินไม่ถึงฝันเพราะลืมปัจจัยสำคัญคือ.. การสร้างกระแสคลื่นพลังดีให้ออกจากจิตของตนอย่างสม่ำเสมอมากพอ ซึ่งเกิดได้จากการทำดี  เช่น  การสวดมนต์ ทำให้พูดจาฉะฉาน เสียงเพราะมีพลังดึงดูดใจ  การรักษาศีล ทำสมาธิ-ฟังธรรม ทำให้คลื่นสมองสงบ สมองส่วนจิตสำนึกทำงานดีขึ้น รู้กาละเทศะ หน้าตาผ่องใส คิดได้ลึกซึ้ง ดูฉลาดน่าชื่นชม

.

               ความกตัญญูต่อพ่อแม่อาจารย์ กราบขอขมา ทำให้ท่านสบายกายใจ แบ่งเบาภาระ ฯลฯ  ใจที่รักห่วงใย  ทำดีต่อผู้มีพระคุณ ก่อคลื่นเมตตาให้เป็นที่รักของผู้คนได้ง่าย    ผู้สรรเสริญความดีผู้อื่นย่อมได้การสรรเสริญจากคนทั้งโลก สร้างนิสัยชื่นชมความเก่งความดีของผู้อื่นทั้งต่อหน้าลับหลัง  เผยแพร่เกียรติคุณผู้อื่น  ทำสื่อธรรมะให้น่าสนใจ ทำสาธารณะประโยชน์ที่มีผลกับคนหมู่มาก สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างแรงดึงดูดในตัวเราให้เป็นที่ชื่นชอบในวงกว้างได้ไม่ยาก  (มีผลต่อธุรกิจและงานที่ทำอยู่ด้วย)

              วงการบันเทิงอาจเป็นอาชีพทำร้ายตัวเอง โดยเฉพาะคนเข้าผิดทางและเดินต่อในทางที่ผิด บางคนเอาตัวเข้าแลก บางคนโดนมาเฟียขู่ให้ยอม..ด้วยชีวิตพ่อแม่เป็นเดิมพัน  มีตัวอย่างมาแล้วกับข่าวดัง.. ดาราฆ่าตัวตายทิ้งจดหมายแฉถูกบังคับบำเรอกาม!!   "กฎพลังงานทางจิตคือ ทำอะไรส่งผลทางใจผู้อื่นไว้  มีผลกลับหาใจเราเสมอ"   มีการทดลองเรื่องกระแสจิตส่งไปเปลี่ยนโมเลกุลน้ำที่อยู่ห่างหลายร้อยกิโลได้ จำตอนคนจ้องเราด้วยความโกรธได้ไหม แม้อยู่ระยะไกลแต่ก็รับรู้ได้ถึงพลังที่พุ่งมาให้เรารู้สึกอึดอัด   ขณะดูหนังฟังเพลง จิตเราจะพุ่งไปหาดาราหรือนักร้องคนนั้นทันที  เมื่อฟังเพลงเศร้าใจ ดูละครแล้วหมั่นไส้  สงสาร ฟุ้งซ่านเกิดกำหนัด  ก็จะเกิดคลื่นพลังลบเหล่านั้นส่งไป  แค่คนเดียวที่เพ่งด้วยอารมณ์ลบมา ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดได้แล้ว แต่นี่ส่งจากหลายล้านคนพร้อมกันเป็นประจำ  จึงไม่แปลกที่ดาราจะมีกระแสจิตที่แปรปรวน เครียดง่าย ฟุ้งซ่าน รักง่ายหน่ายเร็ว ติดยาติดเที่ยว หลงโลกได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

              ความดังคือดาบสองคม   หากทำรายการ  ร้องเพลงมีสาระ  เล่นละครสอนคนให้เกิดสติคิดได้    พลังงานดีที่เกิดในใจผู้ชม   จะส่งกลับให้ใจเราสว่างสบายเช่นกัน   คนบันเทิงควรหมั่นทำบุญสร้างปัญญาให้ตนและคนอื่นประจำ เช่น การปฏิบัติธรรม  ร่วมเผยแพร่ธรรมะที่ถูกต้อง  สร้างกระแสจิตสงบสว่างแทนความฟุ้งซ่านหรือหลงโลก จะได้ไม่เสียคนอย่างคนดังทั่วโลกที่เป็นข่าวเรื่อยมา  

 

 

              ทุกวันนี้มีแต่คนอยากดัง แต่มักไม่ยอมทำเหตุให้พร้อมครบด้าน  จึงต้องผิดหวังเสียน้ำตา   เสียเวลาและอาจเสียตัวฟรี    บางคนโชคดีตะกายไปถึง แต่ก็เป็นได้แค่.. "เศษดาว"    เหนื่อยยากแทบตาย  สุดท้ายอาจแค่เพิ่มช่องทางหาทุกข์ใส่ตัวมากขึ้น      " รวยหรือดังตอนยังไม่พร้อม  ไม่ต่างกับเอาทองร้อน เทใส่ภาชนะไม่ทนไฟ "     หมั่นสะสมบุญให้มากก่อน  จะรวยหรือดังได้ถาวรและปลอดภัยกว่าครับ!!

 

 

.

หมายเหตุ :  ดารานักร้องหลายคนเข้าใจผิดว่าการสร้างความสุขให้คนอื่นเป็นบุญ     แต่ความสุขที่ไม่ใช่ความผ่องใสสงบ เป็นสุขจอมปลอม อาจเข้าข่ายโมหะ คือความหลง    ให้ความหลงกับผู้อื่นไว้มาก  ก็จะกลายเป็นคนหลงได้มาก จิตใจอ่อนแอ ทุกข์ใจง่าย  เมื่อหลงมากก็นั่งสมาธิเจริญสติให้รู้เห็นธรรมตามความเป็นจริงได้ยาก  คนที่เอาแต่พูดเรื่องตลกไร้สาระไปวันๆ    ให้สังเกตว่าหน้าตาจะดูไม่ฉลาด  ความหลงในความสุขอันจอมปลอมเป็นภัยใหญ่ที่แฝงมาด้วยรอยยิ้มและความสุข   พระไตรปิฎกกล่าวถึงอาชีพบันเทิงไว้ว่า..."ต้องตกนรก"..ซึ่งไม่ได้หมายว่าต้องเป็นแบบนั้นทุกคน 



              สำหรับคนที่รู้จักทำบุญหลากหลาย..(โดยเฉพาะการศึกษาและให้ธรรมะผู้อื่น) ถ้าน้ำหนักบุญ  หรือความดี  วิบากด้านดี  กุศลจิตเข้มข้นมากกว่า  ย่อมพ้นนรกได้  (คล้ายคนชอบกินเหล้า แต่ถ้าดูแลตัวเองอย่างดี กินผักผลไม้ ออกกำลังกาย ทำสมาธิเป็นประจำ  อาจเป็นโรคได้ยากกว่าคนทั่วไปที่ไม่กินเหล้าด้วยซ้ำ)   แต่ในแง่ของคนบันเทิงที่จะทำบุญเหนือบาป หรือเหนือโมหะที่สร้างให้กับคนจำนวนมาก ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะกรรมที่ส่งให้คนอื่นขาดสติและลุ่มหลง มันจะสะท้อนกลับมาหาใจตนเองซะจนไม่คิดแก้ไขหรือเพิ่มบุญในด้านที่ถูกต้องให้ตนเอง เหมือนคนแต่งหน้าหนาจนกลบผิวจริง มองภายนอกเหมือนผิวสวยแต่ภายในแทบดูไม่ได้ ส่องกระจกกี่ครั้งก็คิดว่าหน้าเนียน เลยไม่ใส่ใจกับการดูแลบำรุงผิวให้เต็มที่และถูกวิธี กว่าจะรู้ตัวก็แก้ไขไม่ทันแล้ว

 

         น่าสงสารมากที่สุด กับผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น ที่ต่างใฝ่ฝันอยากเข้ามาเป็นดาว  ตะเกียกตะกายเหนื่อยยาก ยอมแลกได้ทุกอย่าง  แต่สุดท้ายก็แค่เหยื่อของธุรกิจและโลกมายา  หลายคนต้องเจ็บช้ำกลับไป  หลายคนลำบากแทบตาย ตะกายกันสุดชีวิต  ก็เพียงแค่เข้ามาทำบาป สะสมบาปให้ตัวเองมากขึ้น  อย่างที่ตัวเองก็มองไม่เห็นว่า..  สิ่งที่ทำเป็นบาปแค่ไหน ก่อความทุกข์ทางใจให้ตนเองแค่ไหน  !! 


โจโฉ www.jozho.net



Tags :

 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view