เชื่อหรือไม่, บิล คลินตันเป็นชาวชีวจิตแล้ว!

Posted by สุทธิชัย หยุ่น





ผมเห็นอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันทางโทรทัศน์เมื่อไม่นานมานี้แล้วก็ประหลาดใจยิ่งนัก เพราะน้ำหนักลดลงไปอย่างชัดเจน และสีหน้าก็แช่มชื่น, เหมือนอายุจะลดน้อยถอยลงไปสักสิบปี
ต่อมาอีกไม่กี่วัน, เพื่อนส่งคลิบวีดีโอที่คลินตันให้สัมภาษณ์ CNN จึงถึงบางอ้อ
คลินตันตัดสินใจใช้ชีวิตแบบ “ชาวชีวจิต” อย่างเอาจริงเอาจังแล้วครับ!
แกบอกว่าตั้งแต่ตัดสินใจหันมากินอาหารที่หนักไปทาง “ผักและผลไม้” ที่แกเรียกว่า “plant-based diet” เลิกเนื้อและอาหาร “แดกด่วน” ที่เคยชอบหนักหนา ปรากฏว่าน้ำหนักลดไป 24 ปอนด์ หรือประมาณ 10 กิโลกรัม
เหตุที่อดีตประธานาธิบดีคนนี้ตัดสินใจเลิกอาหารแบบ “หมูเห็ดเป็ดไก่” และหันมากินแบบชีวจิตอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้นก็เพราะลูกสาวคนโปรดจะแต่งงาน เธอบอกให้พ่อลดน้ำหนักให้ “หล่อเฟี้ยว” เพื่อจะได้เข้าพิธีอย่างเต็มภาคภูมิ
เพราะ “เชลซี” เธอก็เข้าห้องยิมเพื่อออกกำลังกายอย่างตั้งอกตั้งใจเพื่อลดน้ำหนักให้ “สวยเช้ง” เช่นกัน
ความรักลูกสาวและอยากทดลองสูตรของหมอหัวใจที่รักษาเขา, คลินตันจึงยอมเปลี่ยนวิถีชีวิต เลิกตามใจปากของตัวเอง หันมากินอยู่อย่างคนที่ต้องการจะมีหุ่นดี, และต่ออายุตัวเองอีกหลาย ๆ ปี
ต้องไม่ลืมว่าคลินตันมีปัญหาสุขภาพมาหลายปีมาแล้ว เคยให้หมอผ่าหัวใจทำบายพาสมาใหญ่แล้วครั้งหนึ่ง หน้าตาตอนออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ ที่ผมเห็นทางทีวีนั้นซีดเซียวไปเยอะ ทำให้คลินตันซึ่งต้องช่วยภรรยาฮิลลารีหาเสียงเป็นประธานาธิบดีเมื่อสองปีก่อนต้องฟิตร่างกายอย่างกะทันหัน
มาคราวนี้, พอลูกสาวเอ่ยว่าขอให้ลดน้ำหนักเป็นกรณีพิเศษเพื่องานแต่งงานของเธอ (เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา), คลินตันก็ไม่มีข้ออ้างใด ๆ ที่จะไม่ทำ
คลินตันบอกว่าก่อนที่จะตัดสินใจเลิกกินแบบคนมะกันทั่วไปทั้งหลาย, แกได้ทำการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง พบว่าร้อยละ 82 ของคนที่หันมากินพืช, ผัก, ผลไม้เป็นหลักนั้นมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าคนอื่นอย่างจริงจัง
แกบอกว่าสูตรของอาหารของแกคือ “plant-based diet” ซึ่งแปลว่าไม่ดื่มนม, ไม่กินเนื้อ, ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว, หมู, ไก่หรือเตอร์กี
“ผมกินปลาน้อย...นาน ๆ จะกินสักครั้ง...ถ้าคุณทำได้อย่างนี้, ร้อยละ 82 ที่ทำอย่างนี้สามารถให้ร่างกายรักษาตัวเองได้...”
คลินตันบอกผ่านรายการใน CNN อย่างเชื่อมั่น
ผมไม่เคยคิดว่าคลินตันจะเลิกกินอาหาร “แดกด่วน” ได้ เพราะเคยเห็นภาพที่แกออกวิ่งจ็อกกิ้งกับพรรคพวก, เสร็จแล้วก็เดินหน้าตาเฉยเข้าไปในร้าน fas-food และหยิบแฮมเบอร์กเกอร์ชิ้นใหญ่ใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย, เหมือนที่วัยรุ่นและคนอเมริกันทั่วไปทำกันเป็นนิสัยปกติ
แต่พอเห็นข่าวชิ้นนี้, และตามไปดูสิ่งที่นายแพทย์บางคนที่คลินตันเอ่ยถึง, ผมก็เชื่อว่าครั้งนี้แกเอาจริง เพราะอายุล่วงเลย 60 แล้ว, หากยังประมาทและกินดื่มอย่างไม่บันยะบันยัง, ก็มีสิทธิ์จะล้มหายไปได้ง่าย ๆ
คลินตันเอ่ยชื่อนายแพทย์ที่ชื่อ Dr Caldwell B. Esselstyn ซึ่งโด่งดังทางด้านโรคหัวใจและแนะนำสูตรอาหารแนวทางชีวจิตให้กับคนไข้แล้วก็พอจะเห็นว่าแกคงจะศรัทธาวิถีชีวิตแบบนี้จริง ๆ จัง ๆ
หมอคนนี้ดังด้วยการวิจัยที่สรุปว่าคนป่วยเป็นโรคหัวใจสามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีธรรมชาติโดยเฉพาะหากสามารถหันมากินอาหารที่หนักไปทางผักและพืชโดย “ลด, ละ, เลิก” เนื้อและอาหารที่มีไขมันสูง
หมออีกคนหนึ่งที่คลินตันเอ่ยถึงคือคุณหมอ Dean Ornish ซึ่งเขียนหนังสือชื่อดัง “Eat More, Weigh Less” (“กินมากขึ้น, น้ำหนักน้อยลง”) ซึ่งเป็นสูตรอาหารที่รักษาโรคหัวใจคนจำนวนไม่น้อย
สูตรอาหารของหมอ Ornish เน้นอาหารเส้นใยสูง, ไขมันต่ำ ให้กินพืชและผักเป็นหลัก ผสมผสานกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
คำแนะนำของหมอคนนี้คือว่าหากจะลดน้ำหนักและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายทั้งปวงแล้วไซร้, การกินอาหารไม่ได้อยู่ที่การกำหนดว่าจะกินอาหารแคลอรี่เท่าไหร่ หากอยู่ที่การแบ่งว่าอาหารอะไรที่ควรกินได้ตลอดเวลา, อะไรที่กินบางเวลาและอะไรที่ไม่กินเลย
คลินตันเดินตามสูตรที่ว่านี้คือกินพืช, ผัก, ผลไม้เป็นหลัก และเลิก “เนื้อ, นม, ไข่” โดยสิ้นเชิง จึงได้ผลอย่างที่เห็น นั่นคือเป็น “นิว คลินตัน” จริง ๆ
“ตอนนี้, น้ำหนักของผมกลับไปเท่ากับตอนเป็นนักเรียนมัธยม” แกบอกอย่างภาคภูมิใจยิ่ง
คลินตันเอ่ยถึงชื่อหมออีกคนหนึ่ง Colin Campbell ซึ่งไปศึกษาภาวะความเป็นอยู่ของเมืองจีนในชนบท, และได้ข้อสรุปว่าร้อยละ 80-90 ของคนป่วยเป็นมะเร็ง, โรคหัวใจและโรคร้ายอื่น ๆ สามารถจะป้องกันได้ด้วยการกินอาหารที่มีพืช, ผัก, ผลไม้เป็นหลัก
เขาเรียกโครงการค้นคว้าเรื่องอาหารกับสุขภาพของคนจีนว่า The China Project และใช้ศัพท์คำเดียวกัน นั่นคือ “plant-based diet.”
หมอแคมป์เบลกับทีมวิจัยสรุปจากการค้นคว้าข้อมูลและเก็บสถิติที่เมืองจีนว่าโปรตีนจากพืชมีส่วนช่วยลดคอเลสเทรัลในเส้นเลือดได้มาก ซึ่งแปลว่าให้กินอาหารที่มีพืชและผักเป็นหลัก, ลดและเลิกเนื้อ นั่นแหละคือเคล็ดลับของคนอายุยืนในเมืองจีน
หมอคนนี้บอกว่าเขาโตมาพร้อมกับการกินเนื้อเป็นหลัก แต่เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนมากินพืชและผักพร้อมกับครอบครัว, ตอนแรก ๆ ก็มีปัญหา เพราะความเคยชินที่แตกต่าง
“ในระยะสั้นนั้น คนที่เคยชินกับอาหารที่มีเกลือและไขมันสูงจะไม่ชอบอาหารที่ทำให้สุขภาพเราดีขึ้น แต่ถ้าอดทนหน่อย, สักสองถึงสามเดือนต่อมา, คุณก็สามารถจะชอบรสชาติใหม่นั้น และเชื่อผมเถอะ, ความเคยชินเรื่องรสชาติอาหารนั้นเปลี่ยนกันได้...แล้วคุณก็จะพบว่าเมื่อคุณหันมากินอาหาร plant-based diet แล้ว, คุณจะมีความสุขและร่างกายจะฟิตขึ้น...” หมอแคมป์เบลยืนยัน
ว่าง ๆ ชวนบิล คลินตันมารำกระบองกับชาวชีวจิตที่กรุงเทพฯไม่เลวนะครับ, อาจารย์สาทิส!



------------------------
ขอบคุณที่มา
เชื่อหรือไม่, บิล คลินตันเป็นชาวชีวจิตแล้ว!

__________________