http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/02/2023
สถิติผู้เข้าชม14,602,448
Page Views22,689,438
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

คำคมสั้นๆ จากคุณดังตฤณ เกี่ยวกับกรณีหลวงพ่อปราโมทย์ และบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

(อ่าน 37782/ ตอบ 20)

เว็บมาสเตอร์

พอดีผ่านไปเจอใครพูดถึงผมพอดี ก็เลยแวะอ่านก็พบบทความดีๆ เยอะมาก
เลยเก็บมาฝากกันครับ 

ที่มา
http://www.cmadong.com 
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4716.0/wap2.html
อนุโมทนากับป้าแจ่มใส jamsai:  ด้วยครับ

(แหม.. ไม่อยากบอกเลยว่า.. ไม่สนใจเชิญผมไปบรรยายให้นักศึกษาฟังบ้างเร้อ.. 555  )


รวบรวม RT Dungtrin _/\_ _/\_ _/\_  โดยคุณเต้ย (ผู้รวบรวม)

http://twitter.com/dungtrin

- ท่านได้รับกำลังใจจากคนที่ส่งกำลังใจไปให้ ในรูปของความสว่างมวลรวมแน่ๆครับ
- ถึงเวลานี้มีอยู่แค่สองผลลัพธ์ เขาดับท่านสำเร็จ หรือไม่ก็ดันท่านให้ดังระเบิด ความเพียรของมนุษย์เป็นไปเพื่ออะไรก็ดูเอาเถิด
- นักข่าวแผลงฤทธิ์ได้ที่สุดตอนยังไม่รู้อะไรเลยกับตอนที่เรื่องถูกขุดคุ้ยหมดเปลือกแล้ว และอาจเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ได้
- เมื่อใจงาม คุณจะรู้สึกถึงความงามแม้ในสิ่งเลวร้าย แต่หากใจร้าย คุณจะเห็นแค่แง่ร้ายแม้ในสิ่งดีงาม
- เรื่องข้างนอก ก่อนเราเกิดก็วุ่น จนเราตายก็วุ่น เรื่องข้างใน ก่อนเราเกิดต้องวุ่นเหมือนกัน แต่ก่อนตายมีสิทธิ์ทำให้ว่างถึงที่สุด
- พระพุทธเจ้าท่านเคยสอนไว้ครับ ต่อให้ใครด่าว่าท่าน ก็ให้ดูดีๆว่าเขาพูดผิดหรือพูดถูก ถ้าผิดจะได้แก้ให้ถูกด้วยความใจเย็นได้
- พระสารีบุตรก็เคยพูดครับว่าอายุและทรัพย์สิน ท่านประกันให้ได้ว่าไม่เสียไปในเวลาเท่าไหร่ แต่ศรัทธานี่ประกันกันไม่ได้แม้แต่วันเดียว
- นักข่าวก็เริ่มเข้าใจเรื่องนี้ครับ ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ ประเด็นการขุดคุ้ยจะย้อนมาหาตัวเขาเองนะ เราตามดูข้อเท็จจริงแล้วกัน
- ต้องเห็นใจคนที่รับข่าวร้ายเกี่ยวกับพระมาเยอะ อย่างไรฟังแล้วก็ต้องเชื่อว่าจริงไว้ก่อน คงต้องรอให้ศาลตัดสินจะได้รู้
- ทุกคนพยายามเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี ที่สุดแล้วก็หวังแต่ว่าครั้งนี้ศาสนาจะได้ดี ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งได้ดีตามลำพังครับ
- เรื่องนี้น่าจะทำให้ทุกคนเป็นสุขต่างหากครับ เพราะเมื่อเรื่องขึ้นศาลก็จะระวังในการพูดและยกหลักฐานเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น
- ขอให้มองว่าเรื่องขึ้นศาลถือว่าดีครับ ถ้าตัดสินกันที่ศาลจะได้มีคนกลาง มีการพิสูจน์หลักฐาน ไม่ต้องพูดปาวๆกันแบบเลื่อนลอยนะ
- ต้องคิดว่าถึงจุดที่ดีที่สุดแล้ว เพราะมีการเปิดเผยตัวออกหน้าออกตา และมีข้อหาชัดเจน จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร อะไรเป็นอะไร
- ทุกคนพยายามเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี ที่สุดแล้วก็หวังแต่ว่าครั้งนี้ศาสนาจะได้ดี ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งได้ดีตามลำพังครับ
- เรื่องดีจริงก็ดีอยู่เสมอ เรื่องร้ายปลอมจะร้ายได้เดี๋ยวเดียวครับ



มีข่าวลือกันหนาหูว่า คุณดังตฤณถอนตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับหลวงพ่อ
แต่ประโยคข้างบน คงเห็นกันชัดนะครับว่าอะไรคืออะไร

สติครับสติ... มีสติเห็นอะไรบ้าง


************************

อ้างอิง : http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=18365

ทนายความและลูกศิษย์เตรียมเปิดสวนสันติธรรมตรวจสอบกุฎิเสาร์นี้ -สำนักพุทธชี้ตั้งเป็นสาขาวัดบูรพารามถูกต้อง

22 ก.ย. 53 : นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า
จากการร้องเรียนให้ตรวจสอบพระปราโมทย์ ปราโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่ามีการ
ก่อตั้งโดยให้สวนสันติธรรมเป็นสาขาวัดบูรพาราม พระอารามหลวง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นวัดที่พระปราโมทย์
อุปสมบทไม่ถูกต้องนั้น สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ตรวจสอบไปยังวัดต้นสังกัด ได้ รับแจ้งว่า
ทางวัดบูรพารามให้ความยินยอมที่จะให้พระปราโมทย์เปิดสวนสันติธรรม เป็นสาขา ในฐานะที่เป็นอาจารย์
และลูกศิษย์ที่หลวงปู่ดูลย์เคยเป็นเจ้าอาวาส

ซึ่งไม่ถือว่าก่อให้เกิดความเสียหาย แต่เป็นการยกย่องอาจารย์ ส่วนการบริหารจัดการภายในสวนสันติธรรมนั้น
ทางวัดบูรพารามไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังขอเวลาในการตรวจสอบคำสอนของพระปราโมทย์
ความสัมพันธ์กับแม่ชีอรนุช สันตยากร รวมทั้งที่ดิน และบัญชีบริจาค อย่างละเอียด โดยในวันเสาร์นี้ลูกศิษย์
และทนายความพระปราโมทย์จะเปิดกุฏิให้สื่อมวลชนเข้า ตรวจสอบนั้น ตัวแทนจากสำนักพระพุทธศาสนา
จะร่วมลงพื้นที่ด้วย เพื่อพิสูจน์ว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และหากมีการร้องเรียน
กลับจากฝ่ายพระปราโมทย์ให้ตรวจสอบผู้ร้อง ก็คงต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้มีรายงานว่าในกลุ่มของผู้ร้องเรียนพระปราโมทย์ พร้อมที่จะให้ตรวจสอบกลับเช่นกัน โดยยืนยันว่ามีหลักฐาน
ชัดเจนในการตรวจสอบพระปราโมทย์ ทั้งเรื่องการอวดอ้างว่าเป็นพระอรหันต์ รวมทั้งความสัมพันธ์ของพระปราโมทย์
และแม่ชีอรนุชที่มีกุฎิอยู่ในโซนพิเศษ

ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ซึ่งตรวจสอบพระปราโมทย์ตามคำร้องของนางฐิตินาถ ณ พัทลุง
และกลุ่มลูกศิษย์บางคนนั้น แม้จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพระปราโมทย์ แต่ก็ ยังไม่มีการตั้งเรื่องให้เป็นคดีพิเศษ
เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ


****************************

นายเกรียงกมล เลาหไพโรจน์ เพื่อนร่วมรุ่นคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ รุ่นที่ 24 เข้าศึกษาในปี 2514
รุ่นเดียวกับพระปราโมทย์ ปราโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เล่าถึงพระปราโมทย์
ในสมัยที่เป็นนิสิต ว่า......
....... เป็น คนที่น่ารัก สะอาด สะอ้าน แต่งตัวเรียบร้อย กางเกงสีกรมท่า ร้องเท้าหนัง
เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว ผูกเน็คไท ตั้งแต่ปี 1-4 เห็นหนึ่งใน 10 คนจาก 100 คนที่แต่งตัวดีเรียบร้อย
ป็นคนสุภาพเรียบร้อย จิตใจดี ร่าเริงแจ่มใส และประหยัด มีรุ่นน้องที่เดินไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยและ
ยังแต่งตัวเหมือนกันอีกคือ อาจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เป็นนิสิตรุ่นที่ 25
“ทั้งพระปราโมทย์กับอาจารย์ บวรศักดิ์ เคยทำงานในชมรมวรรณศิลป์ จุฬาฯ ด้วยกัน เจ้าบทเจ้ากลอนทั้งคู่
พูดเก่ง เป็นคนไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ความประพฤติดีอยู่ในระเบียบวินัยที่ดี ผมเชื่อว่าเพื่อนฝูงทุกคน
จะรู้สึกเหมือนผม พระปราโมทย์เป็นคนสดชื่น สนุกสนาน คุยเก่งแต่ไม่หยาบคาย”

เมื่อถามถึงการร่วมกิจกรรมทางการเมือง ......
นายเกรียงกมล กล่าวว่า สมัยนั้นมีบ้างแต่ไม่มาก เป็นเรื่องธรรมดาที่นิสิตออกมาคัดค้านการรัฐประหาร
ในสมัยนั้นเข้าร่วมแต่ไม่ ได้มาทำกิจกรรม ซึ่งในปี 2517 อาจารย์บวรศักดิ์ ได้เป็นประธานสภานิสิตจุฬาฯ
ด้วย หลังจากเรียนจบพระปราโมทย์ไปทำงานที่สภาความมั่นคงแห่งชาติกว่า 10 ปี ก่อนจะย้ายมาอยู่
องค์การโทรศัพท์

เมื่อถามว่าได้ติดต่อกันหรือไม่
“นานๆจะเจอกันสักที บังเอิญว่าบ้านอยู่ใกล้กันผมอยู่กลางซอย พระปราโมทย์อยู่ท้ายซอย ในหมู่บ้าน
ไพฑูรย์นิเวศน์ เขตจตุจักร ชอบพอกันดี เรามีความนิยมในความสะอาดสะอ้าน ยืนยันพระปราโมทย์
เป็นคนดี ก่อนที่พระปราโมทย์จะออกบวชเห็นเดินออกจากท้ายซอยมากับภรรยาสองคนแต่งตัว ธรรมดา
ร้องเท้าแตะเสื้อเชิ้ตเรียบง่ายเชื่อว่าเป็นเสื้อผ้าราคาถูก คิดว่าช่วงนั้นคงกำลังศึกษาธรรมะกัน
ทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกัน คิดว่าพอถึงจุดหนึ่งคงอยากมีความสุขทางธรรมจึงชวนกันไปบวชไปตั้งสำนัก ปฏิบัติธรรม”
นายเกรียงกมล ย้ำอีกครั้งว่า พระปราโมทย์เป็นคนดีมาก เชื่อว่าท่านสะอาดเป็นคนไม่ล่อกแล่ก
จริงๆ พูดน้อยนิ่งๆแต่จิตใจแข็งแรงมีความเชื่อมั่น

เมื่อถามถึงข่าวที่เกิดขึ้นในสวนสันติธรรม
นายเกรียงกมล ได้แสดงมุมมองความเห็นเกี่ยวกับกรณีการโอนที่ดินให้ภรรยาว่า ไม่ได้รู้สึกคล้อยตาม
ไปกับข่าวที่เกิดขึ้นต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ผมเชื่อว่าคนที่ผมรู้จักมานานคงไม่เสียเวลากับเงิน
10-30 ล้าน ผมให้ค่ามากกว่าเงิน เรื่องเงินเรื่องผู้หญิงไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง แต่คนที่เรารู้จักเขามาก่อน
ไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น ภรรยาไม่แต่งตัวแต่งหน้าเจอแบบนี้ตั้งแต่ก่อนบวชคนนี้น่าจะเป็นรุ่นน้องคณะ
รัฐ ศาสตร์หลายปี
“คนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายแล้ว ชวนกันไป หาทางธรรมเพราะคนคนนี้ไม่อยากมีอยากได้อะไรมาตั้งแต่
อายุ 18 ปีแล้วที่ได้เห็ สมัยที่ทำงานสภาความมั่นคงก็ไม่เห็นจะมีวีแววว่าอยากจะรวย การตั้งสำนักสงฆ์
ขึ้นมาอุทิศตนสามีบวชพระ ภรรยาบวชชี และอยู่กินกันมากับภรรยาก็คงไม่รู้จะใส่ชื่อใครเพราะ
เป็นพระจะถือครองที่ดิน ไม่ได้ จะไปใส่ชื่อคนอื่นก็ไม่รู้ว่าจะนำไปขายเมื่อไหร่ แล้วคนอีกเป็นร้อย
เป็นพันที่ต้องอาศัยที่ตรงนั้นจะทำอย่างไรแล้วเงินที่ บริจาคมาจะไว้ใจใครได้นอกจากคนที่เชื่อถือกัน
มากที่สุด เพราะไม่ใช่ลักษณะนิติบุคคล  คนที่อยู่ในสังคมสกปรกมากเราจึงคิดกันว่าไม่มีใครสะอาดจริง “

********************************

DSI เผยผลสอบเจ้าสำนักสวนสันติธรรม ไม่พบกระทำความผิด เรื่องเงินบริจาค ที่ดิน และพระธรรมวินัย
TNN News : อธิบดี DSI แจ้ง หลวงพ่อปราโมทย์ไม่มีความผิด

23 ก.ย. 53 : นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า
จากการรายงานเบื้องต้นในการตรวจสอบข้อร้องเรียนของนางฐิตินาถ ณ พัทลุง และกลุ่มอดีต
ลูกศิษย์พระปราโมทย์ ปราโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ให้ตรวจสอบ พระปราโมทย์ ทั้งกรณีเรื่องของเงินบริจาค ที่ดิน ที่อ้างว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สิน
ให้เป็นชื่อของแม่ชีอรนุช สันตยากร อดีตภรรยานั้น ยังไม่พบว่า พระปราโมทย์ได้มีการกระทำ
ความผิดจริงตามที่มีการร้องเรียน โดยพระปราโมทย์ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ทั้งเรื่องของ
เงินบริจาคที่มีคณะกรรมการดำเนินการร่วม กรณีที่ดินที่ขอจัดตั้งเป็นวัด ตรวจสอบเรื่องความ
ใกล้ชิดกับแม่ชีอรนุช ที่ถูกร้องเรียนว่า กุฏิอยู่ใกล้กัน รวมไปถึงการสอนที่ถูกร้องว่าอวดอุตริ
มนุษธรรม ไม่พบว่าพระปราโมทย์มีการกระทำใดๆที่ผิดต่อพระธรรมวินัย

ทั้งนี้เมื่อดีเอสไอได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว ไม่พบความผิดปกติตามที่ร้องเรียนก็ไม่จำเป็น
ต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ยังคงต้องดูข้อมูล ข้อเท็จจริงต่อไปอีกระยะหนึ่ง และเรื่อง
ดังกล่าวขึ้นอยู่กับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาต่อไป

ขณะที่นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความสวนสันติธรรม เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 25 ก.ย.นี้
พระปราโมทย์ จะเปิดสวนสันติธรรม เพื่อให้สื่อมวลชน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ในทุกกรณีโดยเฉพาะเรื่องของการสอน และกุฏิของพระปราโมทย์กับแม่ชีอรนุช เพื่อพิสูจน์
ความจริงว่าไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหา นอกจากนี้ในส่วนของลูกศิษย์พระปราโมทย์ยังได้หารือ
ที่จะดำเนินการฟ้องกลับ ผู้ร้องที่ทำให้สวนสันติธรรมต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
 แต่พระปราโมทย์ยังคงห้ามปรามไว้ เพราะไม่ต้องการสร้างกรรมต่อกัน

**************************************

  ของจริง กับ ของปลอม ดูไม่ยาก เรื่องของพระปราโมทย์ กับ ฐิตินาถ ณ พัทลุง  

                                     โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 กันยายน 2553
    http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000136614

                       
    
       กรณีพระปราโมทย์ ปราโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม

                       

       ถูกนางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง ผู้เขียนหนังสือเข็มทิศชีวิตเล่ม 1 และ เล่ม 2 อันโด่งดัง และคณะที่มีนายเทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวีรณัฐ โรจนประภา เจ้าของนิตยสารบางกอก และประธานมูลนิธิ บ้านอารีย์ กล่าวหาว่า มีพฤติกรรมยักยอกเงินบริจาค และที่ดิน อวดอุตริมนุสธรรม และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแม่ชีอรนุช อดีตภรรยา เป็นข่าวต่อเนื่องมานานสามสัปดาห์แล้ว
      
       ฝ่ายผู้กล่าวหา คงจะชำนาญเรื่องการประชาสัมพันธ์สร้างข่าวไม่น้อย จึงเลือกใช้วิธี อ่อยเหยื่อ ค่อยๆ เปิดประเด็นข้อกล่าวหาทีละประเด็น เพื่อหลอกล่อให้ติดตาม โดยมีเครื่องเคียงเรียกร้องความสนใจประเภท "ทีเด็ด" เทปลับ "คลิบเสียง" และ จดหมายน้อยถึงลูกรัก 2 ฉบับ
      
       ดูๆไปก็คล้ายกับวิธีการของแกนนำเสื้อแดงคนหนึ่ง ที่ชอบใช้วิธีตีปี๊บ สร้างกระแส ด้วยการอ้างเทปลับ คลิบวิดิโอ ที่เหมือนกันอย่างกับแกะก็คือ เมื่อเปิดหลักฐานที่อ้างว่าเป็นข้อมูลเด็ดเหล่านี้แล้ว กลับปรากฏว่า ไม่ได้มีสาระ หรือนัยสำคัญที่จะสร้างน้ำหนักให้ข้อกล่าวหาเหล่านั้นได้
      
       ตลอดระยะเวลาเกือบเดือน ที่ฝ่ายนางสาวฐิตินาถ กับพวก เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกอยู่ข้างเดียว โดยพระปราโมทย์ ถือคติ "พระไม่ตีกับโยม" ไม่ตอบโต้ แต่ชี้แจงเท่าที่จำเป็น ปรากฏว่า ฝ่ายพระปราโมทย์ ชี้แจงได้ทุกข้อกล่าวหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เงินบริจาค ที่ทำไมต้องโอนให้นางอรนุช อดีตภรรยา ซึ่งมาบวชชีอยู่ในสำนักสวนสันติธรรม เป็นผู้ดูแล ทำไมต้องโอนที่ดินให้ภรรยา รายละเอียดเกี่ยวกับ บัญชีรายรับรายจ่าย สถานะของสวนสันติธรรม ฯลฯ
      
       รวมทั้ง ความสัมพันธ์กับอดีตภรรยา ที่ฝ่ายที่กล่าวหาให้ข้อมูลว่า มีกุฎิอยู่ใกล้กัน หน้าต่างตรงกัน มองเห็นกันได้โดยไม่มีสิ่งใดๆขวางกั้น ซึ่งจากการเข้าไปตรวจสอบของสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ชี้ชัดว่าข้อกล่าวหาเรื่องนี้เป็นเท็จ เพราะกุฎิของพระปราโมทย์กับอุบาสิกาอรนุช อยู่ห่างกันประมาณ 120 เมตร มีถนนคอนกรีต มีต้นไม้กั้น ไม่สามารถมองเห็นกันได้ ทั้งยังมีกุฎิของพระอุปัฏฐาก อยู่ใกล้กุฎิพระปราโมทย์ เพื่อคอยดูแล ซึ่งการวางผังที่ตั้งกุฏินี้ น.ส.ฐิตินาถ เป็นผู้กำหนดแบบไว้ตั้งแต่ก่อสร้าง และยังขอให้มีการสลับกุฏิกับพระอุปัฏฐาก เพื่อความปลอดภัยของพระปราโมทย์ นอกจากนี้กุฏิของพระปราโมทย์ และอุบาสิกาอรนุช ยังอยู่ในระยะไม่ไกลจากบ้าน อนาลโย ของ น.ส.ฐิตินาถ ก่อนที่จะมีการสร้างรั้วคอนกรีตกั้นในภายหลัง
      
       ไม่เพียงแต่คำชี้แจงของลูกศิษย์พระปราโมทย์เท่านั้น แต่บรรดาข้อกล่าวหาต่างๆของ น.ส. ฐิตินาถ และนายวีรณัฐ ที่ยื่นเป็นหนังสือให้ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสอบสวน นั้น ล้วนได้รับการรับรองยืนยันจากสองหน่วยงานว่า ไม่พบความผิดปกติ โดยนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ชลบุรีว่าผลการตรวจสอบเรื่องของที่ดิน และเงินของสำนักสวนสันติธรรมไม่มีปัญหา เนื่องจากทางสำนักสวนสันติธรรม ได้มีการชี้แจงรายละเอียดอย่างชัดเจนว่านำเงินไปทำอะไรบ้าง ส่วนเรื่องของที่ดินที่ขอตั้งวัดก็ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง
      
       สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่บอกว่า การตรวจสอบข้อร้องเรียนทั้งกรณีเรื่องเงินบริจาคและที่ดิน ที่ผู้ร้องอ้างว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้เป็นชื่อของอุบาสิกาอรนุช อดีตภรรยา นั้น ยังไม่พบว่าพระปราโมทย์กระทำความผิดจริง โดยพระปราโมทย์ดำเนินการอย่างถูกต้องทั้งเรื่องของเงินบริจาค เรื่องที่ดินที่ขอจัดตั้งเป็นวัด เรื่องความใกล้ชิดกับอุบาสิกาอรนุชที่ถูกร้องเรียนว่ากุฏิอยู่ใกล้กัน รวมไปถึงการสอนที่ถูกร้องว่าอวดอุตริมนุษธรรม ก็ไม่พบว่าพระปราโมทย์มีการกระทำใด ๆ ที่ผิดต่อพระธรรมวินัย และระหว่างการให้สัมภาษณ์ยังมีการเปิดเผยบัญชีเงินฝากของทางสวนสันติธรรม ทั้งหมด 7 บัญชี ให้ผู้สื่อข่าวดู
      
       ส่วนข้อหาอวดอุตริมนุสธรรมนั้น หลักฐานที่ น.ส. ฐิตินาถ อ้าง มีเพียงคลิปเสียงพระปราโมทย์ ข้อความว่า
      
       ".....โยนิโสมนสิกาสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์คอยบอก โยนิโสมนสิกาสำคัญที่สุด ต้องสังเกต อย่าเชื่อง่าย เราจะรู้ว่าไม่ใช่ จิตไม่ได้ค้นคว้าของมันอยู่ พูดอีกก็หลุดอีก พอหลายๆทีเข้า ก็โอ้ชาตินี้ทำไม่ได้แล้ว ไม่รู้จะไปทางไหน มันจบมุมเหมือนหลังชนกำแพง ถ้ารู้ที่วิเศษเป็นตัวทุกข์ล้วนๆ เลย บางคนเห็นว่าไม่ใช่ตัวเรา เห็นแล้วมันวาง
      
       แต่ว่าต้องมีโยนิโสมนสิกากำกับการดูนะ ถ้าดูไปเฉยๆ บางทีใจไปค้างไว้ข้างใน หลวงพ่อเคยเจอ ตอนนั้นผ่านชั้นที่ 2 แล้ว เข้าไปดูอย่างโสรัจ พอดีไปเจอ ... เจอหน้าแล้วท่านยิ้มหวานเลย ผู้รู้ๆ ออกมาอยู่นอกๆ นี้ ตอนนั้นงงเลย ทำไมต้องมาอยู่ข้างนอก ท่านก็ให้บอกต่อ กิเลสอยู่ข้างนอกเนี่ย ตอนที่บรรลุลงไปข้างในก็เผลอไปหมดแล้ว มีภายในมีภายนอก...."
      
       เอาความรู้ในเรื่องธรรมะชั้นไหนไปสรุปว่า คำพูดทำนองนี้คือ การอวดอุตริมนุสธรรม
      
       ทั้ง น.ส. ฐิตินาถ นายวีรณัฐ เคยเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดพระปราโมทย์ มานานเกือบสิบปี เหตุใดจึงไม่สามารถหาหลักฐานที่หนาแน่นกว่านี้ มาพิสูจน์ข้อกล่าวหาที่มีต่อพระปราโมทย์ ในทุกๆเรื่องได้
      
       เมื่อฝ่ายที่ถูกกล่าวหา สามารถอธิบายข้อกล่าวหาได้ทุกเรื่อง ก็แสดงว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้ เป็นเรื่องเท็จ ที่ถูกกุขึ้นมา เพื่อใส่ร้ายพระปราโมทย์ ถึงเวลาที่ น.ส. ฐิตินาถกับพวก จะต้องตอบคำถามแล้วว่า เหตุใดจึงกุเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา
      
       พระที่ได้ชื่อว่า เป็นพระดี มีลูกศิษย์ ลูกหาศรัทธาเลื่อมใสมากมาย หากจะต้องมีเรื่องมัวหมอง ก็หนีไม่พ้นสองเรื่องคือ สีกา กับเงินๆทองๆ
      
       เช่นเดียว กัน บรรดาอุบาสิกา แม่ยกทางธรรมก็มีจุดตายอยู่สองเรื่องคือ เรื่องเงินๆทองๆ กับ อยากเป็นเจ้าของพระ
      
       ในอดีต พระรูปงาม ห้อมล้อมด้วยสีกามากหน้า เกิดความหึงหวง ชิงพระหักสวาท จนนำไปสู่การเปิดโปงพฤติกรรมของพระ จนต้องสึกก็มีมาแล้ว
      
       สำหรับสีกาฐิตินาถ เรื่องเงินๆทองๆ นั้น เธอแสดงความต้องการชัดเจนอยู่แล้วว่า ขอทวงเงิน 4 ล้าน 3 แสนบาท ที่เคยบริจาคให้พระปราโมทย์คืน เพราะพระปราโมทย์ โอน เงิน ที่ดินที่ซื้อมาด้วยเงินบริจาคไปให้อดีตภรรยาดูแล ซึ่งเธอเห็นว่า เป็นการยักยกอกเงินที่มีผู้บริจาค ไปเป็นสมบัติส่วนตัว
      
       เหตุที่สีกาเกิดเสียดายเงิน ออกปากทวงทั้งที่บริจาคไปแล้ว พระอนุโมทนา ให้พร รับบุญ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลกันไปแล้ว ลูกศิษย์พระปราโมทย์ ให้ข่าวผ่านทนายความมาว่า เพราะเธอผิดหวัง ที่อุตส่าห์ลงทุนไปมากแล้ว แต่กลับไม่ได้เป็น somebody ในสำนักสวนสันติธรรม เพราะพระปราโมทย์ไม่ไว้ใจในพฤติกรรมบางอย่าง
      
       เป็นอาจารย์ ลูกศิษย์กันมาสิบปี ศิษย์ยังเห็นความไม่ดีของอาจารย์ ในหลายเรื่อง ทำไมอาจารย์จะไม่ล่วงรู้เลยหรือว่าศิษย์คิดอะไรอยู่
      
       เรื่องนี้ เป็นอุทธาหรณ์ว่า เข็มทิศ ช่วยได้แค่ชี้ทาง แต่จะเดินไปถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่ ใจเป็นเครื่องกำหนด

tanasak_wa

หยุดเถอะครับ ขอให้ทุกคนหยุดพูดถึง หยุดวิพากวิจารณ์กับสิ่งที่เราไม่รู้จริงว่าเป็นอย่างไร เราเป็นชาวพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรม
หากพระปราโมช ผิดจริง สักวันก็จะได้รับกรรมเอง แต่หากคุณฐิตินาถผิดก็ต้องได้รับกรรมเหมือนกันครับ อะไรๆที่ผ่านไปแล้ว
ก็ไม่อยากให้พูดถึงอีก ต่าคนก็ต่างกลับไปทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ก็น่าจะจบนะครับ......

model

จะ..พระ..หรือ..ฆารวาส...ก็...คน...ไม่หลุดพ้น...ก็วกวนสมชื่อ...คน...

เมื่อไหร่หลุดพ้น....ก็หยุด....คน....

ใครเล่าจะบอกได้ว่า....คน....หรือหยุด...คน....

ยึดถือในธรรมะ....หาใช่...คน...

พุทธองค์ไม่ได้ทรงสอนให้เชื่อในพระองค์....

แต่ทรงตรัสสอนให้...ประพฤติ..ปฏิบัติ...ในธรรม....เมื่อแจ้งแล้ว....จึงถึงใช้เชื่อ.....

แท้จริงแล้วคือ...ธรรมะ....หาใช่สิ่งอื่น....แล้วเรายึดติดอะไรอยู่เล่า.........

...................................................................................................

พุทธศาสนิกชน

แม้พระอรหันต์ผู้บรรลุแล้ว ยังมิอาจล่วงพ้นกรรมเก่าไปได้ ดังตัวอย่างจากพระโมคคัลลานะ
อะไร ๆ ก็คงอยู่ที่เจตนา ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมะดา ไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่เคยทำผิดพลาด

ดังคำกลอนของท่านพุทธทาส น่ะครับ

ให้มองแต่สิ่งดี ๆ อย่าไปมองสิ่งที่ไม่ดี

คำติฉิน นินทา แม้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้พ้นจากกิเลส ก็ยังมิอาจล่วงพ้นคำนินทาเหล่านั้นไปได้ (มีในพุทธประวัตินะครับ เคยฟังของท่าน สุโข กตฺปุญโญ)

ผมก็ยังเชื่อว่า

บุคคลทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว

พระอาจารย์ปราโมทย์ ท่านก็ได้ทำในสิ่งที่ดี ๆ ไว้ จากหลาย ๆ คนที่หันหน้าเดินเ้ข้าสู่ทางธรรม

ผมเองก็เป็นเพียง พุทธศาสนิกชนคนนึง ก็ไม่ได้คิดเข้าข้างใครนะครับ

วันนึงความจริงก็คงจะปรากฏ

ขออนุโมทนาบุญกับท่านทั้งหลายที่ได้ปฏิบัติธรรม แผยแพร่ และรับฟังธรรมะดี ๆ จากท่านโจโฉครับผม สาธุ

พณิชณัชฐา










 เรื่องนี้ เป็นอุทธาหรณ์ว่า เข็มทิศ ช่วยได้แค่ชี้ทาง แต่จะเดินไปถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่ ใจเป็นเครื่องกำหนด


ลัลลา

ปฏิบัติตามคำสอนที่หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช ผลที่ออกมาก็รู้ได้เฉพาะตน
จากการเจริญสติ ตามรู้กาย รู้ใจ ดูจิต ดูกาย ก็พิสูจน์ได้ว่าหลวงพ่อเป็นเพชรน้ำหนึ่ง

เห็นใจที่ท้อ ว่าการที่จะทำดี มันยากจัง กลัวในการที่ต้องเวียนในสังสารวัฎที่น่ากลัว
ขอปฏิบัติบูชา เพื่อบูชาพระรัตนตรัย และพระอริยสงฆ์ทุกองค์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
รู้ว่ากฎแห่งกรรมมันน่ากลัวจริง ๆ  ธรรมะไม่มีกาล ไม่มีเวลา คิดดี ทำดี พูดดีเมื่อไรก็เมื่อนั้น
ลองพิสูจน์ดูซิว่าธรรมะมหัศจรรย์จริง ทุกข์ยังมีอยู่ แต่ผู้ทุกข์ไม่มี

ae

ลองทำตามที่ท่านสอน ผมว่า คนที่จะท่องพระไตรปิฏกมาสอน ท่านสอนไ่ม่ได้ขนาดนี่หรอก
ก็คิดกันเอาเองแล้วกัน จะเชื่อใคร พระพุทธศาสนาท่านให้สิทธิ์ในความเชื่ออยู่แล้ว
คิดกันเอาเอง แต่ผมทำตามท่านแล้วผมว่ามีการเปลี่ยนแปลงกับผมมากขึ้น

โจโฉ

รายชื่อคนดีที่เสียสละเพื่อพระศาสนา ในการรวมตัวกันฟ้องร้องกล่าวหาหลวงพ่อปราโมทย์ครับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   สำหรับรายชื่อของกลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนา ที่ยื่นเรื่องต่อดีเอสไอให้ตรวจสอบ
พระปราโมทย์ นอกจากดร.เทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร ผู้ประสานงานแล้วยังมีบุคคลอื่นอีก 21 คน ได้แก่
อาร์ม นาครทรรพ ผู้ประสานงาน  , สมยศ อนันต์นาคินทร์ ,สมภพ ไกรกาบแก้ว  ,กฤตกร ไกรกาบแก้ว
  ,อภิชาติ ศิริรัตนพิทยากุล  ,วิมล ลิ้มวิลัได้ย,วงศ์ดุษฎี รัศมินทราทิพย์  ,วรพร ลิ้มพรภักดี  ,
เสาวลักษณ์ สุขเจริญโชค , โกศล โสฬสรุ่งเรือง  , วราภรณ์ กาญจนวนิชกุล  ,ภพกฤต ธีระกฤตานนท์ ,
 ผณินทร อินยาสม  ,ฉัตรดนัย อำภา , สมยศ ศิริล้น  , พุทธชาติ ศิริล้น ,มะลิ ศิริล้น ,
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นิลุบล เปสี ,อ้อยพร จึงวิวัฒนาภรณ์,  สุดารัตน์ อินยาสม  และ ไตรเทพ เลิศวิริยะวิทย์


ใครจะอนุโมทนาก็ตามใจ แต่ผมรู้สึกสลดและสงสารจับใจเลยอะครับ
Page : 1
Lock Reply
 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view