http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/02/2023
สถิติผู้เข้าชม14,603,804
Page Views22,691,113
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

Can you please tell me? Who is this GUY?

(อ่าน 1921/ ตอบ 8)

Bee smart

ผู้กล่าวคำเท็จอยู่ จะไม่ทำความผิดอื่น เป็นไม่มี (คำชี้แจ้งเท็จของสวนสันติธรรม) 2 [ข้อคิด-ธรรมะ] Oz(OB)



Can anyone tell me who this guy is??????????  What does he want?


He really looks so serious, concerns that หลวงพ่อปราโมทย์  เป็นพระอริยบุคคล


I think he has a misunderstanding. We listen to หลวงพ่อปราโมทย์  because หลวงพ่อปราโมทย์ can help us to be happy about ourselves. We are not listening to him because  หลวงพ่อปราโมทย์  เป็นพระอริยบุคคล!!!!!!!!!!!!!!!!


ความจริง

อริยะอะไร อ้างแต่คนที่ตายแล้วมารับรอง


 


ทีหลวงตาล่ะ ไ่ม่กล้าโผล่หัวไปหา


อนาถแท้

ความจริงชี้

อริยะเก๊นะซี โกหกเป็นไฟ ทุเรศสิ้นดีเลย


 


คนเชื่อก็อนาถ พระแท้ๆออกมาเตือนแล้วยังไม่ฟัง นึกว่าตัวเองฉลาดกัน


 


คนภาวนาเป็นน่ะ เขาฟังแล้วเขาจะอ้วก เพราะเขารู้ความจริงเขาถึงเอาบอกกันไง

ความจริงชี้

อริยะเก๊นะซี โกหกเป็นไฟ ทุเรศสิ้นดีเลย


 


คนเชื่อก็อนาถ พระแท้ๆออกมาเตือนแล้วยังไม่ฟัง นึกว่าตัวเองฉลาดกัน


 


คนภาวนาเป็นน่ะ เขาฟังแล้วเขาจะอ้วก เพราะเขารู้ความจริงเขาถึงเอาบอกกันไง

เว็บมาสเตอร์

เขาไปโพสต์ไว้ที่ไหนเหรอครับ


แต่ก็อย่าไปสนใจเลย  คนมีปัญญาต่างกัน


ใครใฝ่จะลงนรก ก็ปล่อยให้เขาลงไป   ลูกศิษย์หลวงพ่อและผมเอง ทุกคนต่างก็รุ้ดีว่า


เราศรัทธาท่าน เพราะท่านสอนให้เราหมดทุกข์ และเห็นแนวทางการปฏิบัติ เห็นทางสู่พระนิพพาน


คนบางพวกก็น่าสงสาร บางทีก็ฆราวาสธรรมดานี่แหละ ที่บังอาจไปติเตียนพระ ติเตียนครูบาอาจารย์


จริงๆ เรื่องพวกนี้ ถ้าพระด้วยกันออกมาติติงกัน ฆราวาสก็ไม่ควรไปร่วมด้วยหรอก


แต่ตามปกติ วินัยสงฆ์ท่านก้บอกไว้ว่า พระสงฆ์จะติเตียนกล่าวโทษกัน ต้องกล่าวโทษเฉพาะพระสงฆ์เท่านั้น


ห้ามนำออกมาเผยแพร่  เช่นพระรูปไหนอาบัติ  ท่านก็ให้ตั้งอธิกรณ์ ประชุมสงฆ์ โจทย์กันเอง


แล้วก็ให้ชี้แจง แล้วมีมติลงโทษ  แต่ไม่ใช่ให้เอามาประกาศให้ชาวบ้านรู้


ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ผมก็อ่านพระไตรปิฎกมา ก็คิดว่า วินัยข้อนี้มีอยู่นะครัับ


 


เพราะพระศาสดาท่าน ป้องกันภาพของส่วนรวมเสียหาย


เผื่อพระไม่ได้ผิดจริง  เที่ยวเอามาประกาศ มันก็เสียหายไปแล้ว ภาพของสงฆ์ทังหมด เสียหายไปด้วย 


และต่อให้พระบางรูปผิดจริง การนำความผิดมาประกาศให้ชาวบ้านรู้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ภาพของศาสนาดูดีขึ้นหรอก


ตรงกับสำนวน ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า 


 


วันหนึ่ง พวกที่ปรามาสหลวงพ่อปราโมทย์ ก็คงตกไปอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับพวกที่เคยปรามาสหลวงตา และท่านพุทธทาส


แต่สุดท้าย เหล่าศิษย์และคนส่วนใหญ่ ก็จะตัดสินกันได้เองว่า ใครถูกผิด อันไหนจริง ปลอม


สงสารก็แต่คนไม่รู้ ที่เที่ยวหานรกใส่ตัว  แทนที่จะปฏิบัติตนในสิ่งที่ถูกจริตกับตนไป


เพ่งโทษตัวเอง หาความไม่ดีในตัวเอง เพื่อแก้ไข  กลับร้อนรนมาจับผิด ครูบาอาจารย์คนอื่น


ที่เป็นพระที่ทำให้คนอื่นเลิก ลดละ การยึดถือตัวตน  ซึ่งจะว่ากันด้วยอะไรก็ตาม


 


แต่ผมก็เห็นแต่คนที่ทำตามหลวงพ่อ ล้วนเจริญในธรรมขึ้น ตามลำดับ เห็นชัดๆ คือทุกข์น้อยลง มีสติมากขึ้น


แล้วมันผิดจุดประสงค์พระพุทธองค์ที่ประกาศศาสนาไว้ตรงไหนเล่า


วินัยเล็กน้อย ท่านก็ตรัสไว้เองประมาณว่า  ในกาลข้างหน้าปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมได้


ซึ่งปุถุชนอย่างเรา ก็คงยากที่จะคิด  แต่ถ้าท่านเป็นอริยะจริง ท่านก็ต้องคิดแล้วว่า บางอย่างต้องปรับเพื่อคนในยุคนั้นๆ


ผมยกตัวอย่างนะ


 


วินัยพระ ห้ามใช้ของหรู ของเกินจำเป็น ที่นั่งยังต้องนั่งธรรมดา


แล้วสมัยนี้ ลองดูเวลาพระเทศน์  ที่นั่งหรูหราอลังการ กันเกือบหมด


กุฎิก็สวยงาม ทำอย่างปราณีต  บ้างก็ห้องแอร์ นั่งรถเบนซ์ มีคอม มีทีวี


ตามปกติ พระดูทีวี น่าจะผิดศีล ผิดวินัยใช่หรือไม่ ถ้าดูพวกการละเล่น


แต่ถ้าดูแล้วเพื่อศึกษาละ


 


แล้วเปรียบเทียบ ถ้าพระอริยะ  ดูทีวี อยู่ห้องแอร์ นั่งรถหรูๆ หละ


คือ วินัยพวกนี้ ท่านตั้งไว้กำหราบพระใหม่ ที่ยังไม่ได้อริยะ


จิตก็จะไหลไปตามกิเลสได้  ก้พ้นทุกข์ไม่ได้


แต่สำหรับท่านที่พ้นแล้ว เปิดทีวี เปิดแอร์ อยู่ในที่หรูหราแค่ไหน ก็ไม่กระเทือนอะไรท่าน


เพราะจิตท่านพ้นไปแล้ว   แล้วเมื่อจิตพ้นแล้ว ท่านก็ไม่ได้มาใส่ใจอะไรตรงนี้


ญาติโยมถวายอะไรมาให้ใช้ ก็ฉลองศรัทธาไปอย่างนั้นแหละ


ถ้าจะมาหยุมหยิมกับพระวินัย กันจริงๆ  คงกระดิกตัวอะไรกันไมไ่ด้เลย


พระวินัย ไม่ใช่ กฎหมาย กฎหมายเองยังมีเลี่ยง ยังมีแง่มุมที่ตีความได้ต่างๆ กันเลย


แต่เรื่องพระธรรม พระวินัย เป็นเรื่องละเอียดที่จิตต้องละเอียดพอที่จะเข้าถึง


ไม่ใช่ว่า ต้องมาตีความตามตัวหนังสือเป๊ะๆ


 


ผมก็ไม่ได้อยากหานรกใส่ตัวเองหรอกนะ


แต่ถ้าจะพูดกันจริงๆ เรื่องพระธรรมพระวินัย ที่ลูกศิษย์สายพระป่า ชอบมาอ้าง แล้วมาโจมตีหลวงพ่อ


ผมก็เห็นว่า ถ้าเราเปิดใจกันเป็นกลางจริงๆ  เราจะเห็นความไม่ยุติธรรมในการตีความพระวินัย


 


เช่นหลวงพ่อสอนแบบนี้ ได้ผลดีกับคนจำนวนมาก ก็มากล่าวหาว่า แหกคอกครูบาอาจารย์


แต่ท่านๆ สายที่กล่าวว่า ดำเนินตามรอยครูบาอาจารย์ หละ  ทำไมยังถือว่าการสูบบุหรี่ไม่ผิดวินัย และยังกระทำอยู่


อันนี้แค่เรื่องเล็กน้อยที่เห็นชัดๆ นะครับ


ว่าการสูบบุหรี่ สังคมก็รังเกียจ พระวินัยส่วนใหญ่ เกิดจากโลกติเตียน ท่านเลยบัญญัติห้ามไว้


แล้วรุ่นหลัง แม้วินัยสมัยก่อนไมไ่ด้เขียนเรื่ืองบุหรี่ แต่ก็น่าจะคิดได้ว่า มันเป็นสิ่งที่โลกติเตียน และทำลายสุขภาพ


ท่านโชติกะ ก็เทศน์ไว้ว่า การเลี้ยงชีพชอบ หมายถึงการกินอาหารที่ดี ไม่กินเสพของที่ทำร้ายร่างกายด้วย


ซึ่งจะเห็นได้ว่า การสูบบุหรี่ ก็น่าจะตกอยู่ใน การเลี้ยงชีพไม่ชอบด้วย


 


ทั้งทำลายสุขภาพ ทั้งโลกติเตียน แล้วก็เป็นสิ่งเสพติด ที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย


ซึ่งขัดแย้งกับจุดประสงค์ของพระพุทธองค์แน่นอน เพราะมันทำให้เกิดการยึด การติด


แต่ก็อ้างกันว่า ไม่ผิดศีล ไม่มีในวินัย  ฯลฯ  นี่ตัวอย่างแค่เรื่องเดียวนะครับ


ยังมีตัวอย่างอีกมาก ที่ผมไม่อยากพูด เพราะกลัวจะกลายเป็นการติเตียนสงฆ์ไปซะอีก


 


คือถ้าเรา หลุดจากกรอบของตัวหนังสือ แล้วเอาความจริงเข้าว่ากันจริงๆ เน้นเพื่อประโยชน์ที่จะเกิด


ผมว่าปัญหามันก็ไม่เกิดหรอก  แต่นี่ทุกวันนี้ เหมือนจะทำอะไรกันตามตัวหนังสือ


โดยไม่ดุความจริงกันเลย  บางทีก็อ้างแต่ว่า ครูบาอาจารย์ทำมาแบบนี้ ก็ต้องทำแบบนี้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้


ฟังแล้วก็เหนื่อยนะครับ  คือ ทุกอย่างมันต้องมีเวลาที่เหมาะสมของมัน และมีสิ่งที่เหมาะสมกับกาละเทศะ


ถ้ามีคนกลุ่มหนึ่งมาบอกว่า นี่พวกเธอ เลิกใส่เชิ๊ต เลิกใส่ยีนส์ เลิกใส่ผ้าใบนะ


เธอต้องกลับมานุ่งโจงกระเบน เหมือนบรรพบุรุษเรา  นี่เป็นสิ่งที่ดี เป็นวัฒนธรรมที่น่ารักษาไว้


เธอมาใส่ยีนส์ได้ยังไง บรรพบุรุษเราไม่เคยใส่มาก่อน   คงเห็นภาพชัดนะครับ ว่าบางอย่างมันต้องเป็นไปตามยุคสมัย


ยุคดิจิตอล สิ่งยั่วยุมากมายรอบกาย ผุ้คนเมืองฟุ้งซ่าน  วิธีไหนเล่าจะดีไปกว่า การดูจิตง่ายๆ แบบนี้ สำหรับคนเมืองอย่างพวกเรา


นิสัยคนไทย ส่วนใหญ่ ถ้าพูดกันทางโลกเลยนะ ไม่เกี่ยวกับศาสนา


เราจะเห็นได้ว่า เรามีรูปแบบวัฒนธรรมที่กดข่มเด็กไม่ให้คิดนอกกรอบมาช้านาน


เด็กไทยจึงได้แต่เรียนท่องจำ ไม่กล้าทำอะไรนอกกรอบ โดนบังคับตั้งแต่เด็ก


ต้องตัดหัวเกรียน แต่งตัวงั้นงี้ ทั้งที่มันไม่เกี่ยวกับความฉลาดตรงไหนเลย


จะอ้างว่าเพื่อเป็นระเบียบ เด็กจะได้มีระเบียบ ผมก็เห็นว่า เด็กไทยที่โดนบังคับแต่เด็ก พอโตมาสติแตกทั้งนั้น


ส่วนใหญ่ พอหลุดกรอบได้ จะกลายเป็นคนไร้ระเบียบ แล้วเห็นแก่ตัว ไม่แคร์สิทธิ์คนอื่นไปเลย


ผิดกับต่างชาติที่เขาปล่อยเด็กให้อิสระ พอโตมากลับเคารพสิทธิผุ้อื่นอย่างเคร่งครัด


 


ว่ากันว่า ถ้าไอแซค นิวตั้น -  ลีโอนาโด ดาร์วินชี่   หรืออัจฉริยะของโลกคนใดก็ตาม


ถ้ามาเกิดในเมืองไทย ได้รับการศึกษาและปูรูปแบบชีวิตไว้แบบเด็กไทย


คนพวกนี้ จะเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่กล้าแสดงความคิด ไม่กล้าคิดอะไรพิศดาร จนเป็นบุคคลเอกของโลกแบบนี้หรอก


 


ลองไปดูพวกศิลปินที่ดูเหมือนบ้าๆ บอๆ แต่ละคนนะ  เพราะเขาหลุดจากกรอบ ไม่ยึดติดตำรา


ไม่ยึดติดกับสิ่งที่สังคมบังคับให้ทำ ให้เป็น กล้าคิด กล้าทำ


ดูซิ ว่า แต่ละคน มีปรัชญา มีความคิดลึกซึ้ง และสร้างอะไร ได้แค่ไหน เป็นคนพิเศษกว่าคนอื่นแค่ไหน


ต่างกับพวก แต่งตัวเรียบร้อยถูกกฎของสังคม ที่อยู่ในบ้านเมืองมากมาย แต่มีแต่คนเห็นแก่ตัว และคิดอะไรเพื่อคนอื่นไม่ค่อยเป็น


อันนี้แค่ตัวอย่างบางส่วนเปรียบเทียบนะครับ ว่า บางทีเราต้องมองตามความเป็นจริง


 


การนอกกรอบ การเดินเส้นทางต่างจากครูบาอาจารย์ ไม่ได้ผิดเสมอไป


แต่เราต้องดุว่า จุดหมายปลายทาง นั้น เขาเดินไปไหน แล้วฝากร่องรอยเป็นความชุ่มชื่นเบิกบาน


ให้กับคนข้างทางที่ผ่านมา หรือฝากไว้แต่ความลุ่มหลงให้กับคนที่ผ่านไป


 


กราบขออโหสิกรรม หากข้อเขียนและความคิดทุกอัน จะไปกระทบผุ้ทรงธรรมทั้งหลาย


เจตนาผมไม่เคยคิดลบหลู่ใคร แต่ทำทุกอย่าง เพื่อรักษาประโยชน์ของคนส่วนใหญ่


และตั้งใจจรรโลงพระศาสนาให้ยืนนานเท่านั้นครับ


 


ปล.   ช่วงนี้หละ ยุ่งกับการซ่อมเครื่องและย้ืายบ้าน


รูปประทาย บวชพระ และเครื่องที่ซื้อมาใหม่  ว่าง ๆจะนำมาลงนะครับ


คือ ส่วนใหญ่เ็ป็นไฟล์วีดีโอ ต้องแปลง ต้องอะไรเยอะมาก ไม่มีเวลา อะ หุๆ

Page : 1
Lock Reply
 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view