หายไปสี่วันกับงานหลายด้าน เดี๋ยวจะมาอัพเดทแบบเต็มให้ได้ร่วมอนุโมทนากันนะครับ นำซีดีสมเด็จพระสังฆราชไปมอบให้กับผู้ได้รับรางวัลผู้นำพุทธโลก ที่พุทธมณฑล ได้พบคนที่มีอิทธิพลในหลายวงการ ทั้งที่ผมรู้จักและไม่รู้จัก มีความประทับใจมากมายเกิดขึ้น เพราะเชื่อว่าซีดีชุดนี้จะได้เผยแพร่ไปอีกกว้างไกล แจกมาถึงทั้งสองท่านนี้ ก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนแรกตั้งใจแล้วว่า ใครถามจะบอกว่า เขาจ้างมาแจกซีดีครับ (เพราะส่วนใหญ่คนจะคิดแบบนั้น) แต่พี่นุชด้านน ตะโกนบอกว่านี่โจโฉ ตัวจริงมาเองค่ะ ก็มีคุณผู้หญิงที่เราก็คุ้นๆ หน้าบอกว่าอ้าว ฟังตลอดเลยค่ะ ขอถ่ายรูปด้วยหน่อย และพูดคุยกันสักพัก จนไปแล้วค่อยไปถามพี่นุชว่าใครอะ ผมก็พอจะคุ้นหน้าแต่จำไม่ได้ พี่เขาก็บอกว่า อ้าวก็นักข่าวช่องดังไง ก็ดีใจที่งานที่ทำมาหลายปี ไปถึงบุคคลหลายระดับหลายกลุ่มอย่างไม่น่าเชื่อครับ
---------------------------------------
ถึงแม้ผมจะไม่เคยได้รับรางวัลอะไรเลย และแม้ใครจะให้ ผมก็ตั้งใจว่าจะไม่รับ และมีคนบอกในงานว่าไว้จะเสนอชื่อโจโฉให้รับบ้าง ผมก็บอกอย่าเลยพี่ ผมมีความสุขดีแล้ว รางวัลของผมมันเต็มไปหมดแล้ว คนเป็นล้านที่ทุกข์ใจได้คลายทุกข์ คนจะฆ่าตัวตายเลิกทำแล้วมีชีวิตใหม่ คนอกหักปางตาย คนติดหนี้มหาศาล มีชีวิตที่ดีขึ้น และล่าสุด บางท่านกระดูกกลายเป็นพระธาตุด้วยการฟังซีดีของผมขณะป่วยระยะสุดท้ายหนึงปีเต็ม เด็กสี่ขวบฟังแล้วเข้าไปกอดบอกรักแม่ ฯลฯ หลายปีผมได้รับคำบอกเล่าหลายเรื่องที่ผมก็ว่าคุ้มแล้วที่ผมทุ่มเทและสละชีวิตมาทำ
---------------------------------------
ผมยืนข้างพี่ๆที่พึ่งรับรางวัล แม้ผมจะไม่ได้รางวัล ผมก็ภูมิใจ เพราะรางวัลของผมที่ผมถือว่าประเสริฐที่สุดแล้วก็คือ ผมยังมีลมหายใจ ยังมีปัจจัยสี่ให้ผมทำงาน และสร้างผลงานด้านธรรมะออกมาได้อย่างต่อเนื่องตลอดหลายปี และหวังว่าจะมีโอกาสได้ทำตลอดไปจนกว่าจะตาย แผ่นซีดีเล็กๆ ที่ผมถืออยู่ในมือ สำหรับผมแล้ว มีค่ามากกว่าโล่ห์เกียรติยศทั้งปวงในโลกนี้อีกครับ และรางวัลที่ผมได้รับมาตลอดก็คือ ผมมีคนที่รักผมจำนวนมากเพิ่มขึ้นทุกวัน ทุกคนเมตตาและสนับสนุนผมมาตลอด แม้แต่โครงการเครื่องสำอางของผม จะสำเร็จไม่ได้ ต่อให้วิจัยมาดีแค่ไหน ถ้าคนไม่กล้าซื้อก็จบข่าว แต่นี่ทุกคนเพียงเพราะรักผม ก็เลยกล้าทดลองซื้อใช้แล้วจึงได้ผลดีอย่างทีเห็นกัน
---------------------------------------
นั่งเครื่องบินไปแจกซีดี ค่าโรงแรม รวมของบริจาคและอื่นๆ งานนี้เกือบแสนครับ ถามว่าผมมีเงินมากเหรอ เปล่านะ ตอนนี้ก็ยังต้องทำงานหาเงินเก็บใช้หนี้อยู่ แต่ผมก็คิดว่าสิ่งที่ทำไม่ได้เดือดร้อนใคร และไม่ได้เบียดเบียนตัวเอง ผมเชื่อว่าผมจะหาเงินมาได้เรื่อยๆ ยิ่งดูจากยอดขายเครื่องสำอางในตอนนี้ ที่มีแฟนประจำน่าจะมากพอที่จะใช้ชีวิตที่เหลือทำงานเพื่อพระศาสนาต่อไปได้อย่างไม่ยากเย็นนักครับ มีรูปอีกมาก มีอุปสรรคอีกเยอะ ที่จะมาอัพเดทให้ฟังวันหลัง เหนื่อยมากๆ แต่ท่องในใจแค่คำเดียวก็มีแรงคือ.. "เพื่อสมเด็จพระสังฆราช" บุญผมไม่ได้อยากได้ครับ มันเลยจุดนั้นมานานแล้ว ผมแค่อยากให้ทุกคนสำนึกในพระคุณและรู้เกี่ยวกับพระประวัติของท่านที่งดงามเกินบรรยาย
---------------------------------------
สี่วันผมนอนน้อยมาก และก็นอนน้อยมาตลอด จึงไม่ต้องทักนะครับว่า ทำไมตาผมจะดูโรยๆ ตลอด เพราะผมแพ้แสง และวันนั้นก็ร้อนมาก แต่ผมก็คงยืนยันได้ด้วยรูปภาพว่า หน้าผมปราศจากการแต่งหน้าทาแป้ง มาแบบเพียวๆ ก็น่าจะยืนยันว่า ชุดดูแลผิวที่ผมวิจัยมานาน มันส่งผลยังไงอะ เจอคนทักหลายคนเลย พอบอกว่ามาจากเชียงใหม่ จะมีคนบอกทันทีว่า ถึงว่าซิ คนเหนือนี่เอง ถึงผิวดีจัง ไอ้เราก็อยากพูดดังๆว่า ผมเด็กเทพคร๊าบบบบ ที่เด้งใสขนาดนี้ เจซี คอสเมติก ล้วนๆ 555 http://www.jozho.net/index.php?mo=3&art=42137416
---------------------------------------
// อ้อ ลืมไป จิตใจด้วยมังครับ เครื่องสำอางผม เปิดเสียงหลวงตาให้วัตถุดิบฟังเป็นเดือนๆ ใครที่กิเลสหนา กรรมเก่าแรง มีโอกาสที่จะแพ้ได้อะ อันนี้เรื่องจริงนะ เพราะเท่าที่เห็น คนที่ปฏิบัติธรรม จิตใจดี ยังไม่พบใครแพ้ ได้ผลดีทุกคน เรื่องนี้อธิบายได้ด้วยหลักของคลื่นพลังงานที่ต่างกัน ย่อมขัดแย้งกันครับ จะอัพเดทการไปแจกซีดี และทำกิจกรรมบุญหลายอย่าง เลยกลายเป็นโฆษณาขายของไปหละ ก็นะ ผมเชื่อว่าหลายคนต้องใช้เครื่องสำอาง แต่ถ้ารู้ว่าที่ใช้อยู่อันตรายแค่ไหน และรายได้ผมเอาไว้ทำงานเพื่อพระศาสนา ผมว่าไม่มีสินค้าอะไรที่ได้ประโยชน์ครบทุกทางขนาดนี้แล้วหละครับ
---------------------------------------
แต่ใครจะไม่เชื่อก็ได้นะ ผมไม่ได้เน้นขาย เน้นทำสินค้าช่วยคน วันนี้ลงเครื่องบิน เจอคนเป็นโรคผิวหนังที่แขน เดินเอาเข้าไปให้เขาฟรีๆ ด้วยความเป็นห่วงว่าปล่อยไว้จะอันตราย เพราะเซรั่มผมเคยเอาให้คนเป็นเอดส์ใช้จากหน้าเละกลายเป็นดีขึ้นมาก แต่กลับโดนมองแง่ลบ คนผู้ชายเขายังดีนะ คุยดีมาก แต่แฟนเขานี่มองผมแบบเหมือนพวกหลอกลวงเลย แบบเวลาหวังดีกับคนนี่เจอแบบนี้บ่อยนะ ทั้งที่คนจะซื้อเสียเงินบางทียังต้องรอคิวนาน เวลาของขาด แต่เวลาแจกฟรีนี่ กลายเป็นมองเราต่ำไปเลย แต่เพราะเจอมาเยอะ ก็เลยคิดว่าเราจริงใจซะอย่าง
---------------------------------------
สิ้นเดือนนี้ย้ายกลับกรุงเทพฯแล้วนะครับ ได้บ้านแล้ว ตระเวณหาเองด้วยความเหนื่อยยาก หลังจากประกาศในเฟซ ประกาศกลางรายการวิทยุ แล้วก็พบความจริงว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แม้จะช่วยคนไว้มากมาย แต่บางสิ่งก็ไม่ควรหวังพึ่งใคร เพราะเหมือนเราอาจเกิดมาเพื่อช่วยคนอื่นอย่างเดียวจริงๆ ^^ ตอนนี้เข็ดเลยครับ ต่อไปแม้เรื่องเล็กน้อย ก็จะไม่หวังพึ่งใครเด็ดขาด เหตุผลที่ผมทำงานหนักมาก และไม่เคยมีวันหยุดเลยตลอดหลายปี ก็เพราะเรื่องนี้หละครับ เพราะถ้าผมเดือดร้อนมาจริง จะมีแต่กำลังใจ แต่หาใครช่วยได้จริงนั้นยากเต็มที่ ก็ต้องสู้กันต่อไป ปีนี้ตั้งใจปั้นงานเพื่อพระศาสนาแบบจริงจังมากขึ้นครับ คงเน้นที่เสียงอ่านเหมือนเดิม